'เดวิด' โร่ขอโทษจนท.กู้ชีพ ปมชูนิ้วกลาง ด้านสตม.ยันเนรเทศ ถอนวีซ่า-ขึ้นแบล็กลิสต์

เดวิดโร่ขอโทษคนขับรถพยาบาล หลังทำตัวกร่าง ขับรถแช่ขวา ชูนิ้วกลาง ใส่รถกู้ชีพ แล้วแจ้งความเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ สั่งคู่กรณีลบคลิป บังคับโพสต์ "ต่อไปจะไม่โกหกและไม่ทำตัวแย่ ๆ แบบนี้"



เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายเดวิด นักธุรกิจชาวสวิส ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายหมอธารดาว โดยถ่ายคลิปขณะเดินเข้าไปเตะคุณหมอ ที่นั่งดูพระจันทร์วันมาฆบูชากับเพื่อน ที่บันไดวิลล่า 23 ริมหาดยามู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พร้อมภรรยา นำช่อดอกไม้ไปมอบให้ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ ฮ้อบุตร เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กรณีเมื่อช่วงหัวค่ำ ของวันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายเดวิด ขับรถแช่ขวา ขวางรถกู้ชีพที่ว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ขับมา และยังชูนิ้วกลางให้ เหตุเกิดบริเวณก่อนถึงอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ถนนเทพกระษัตรี



ต่อมาฝ่ายรถพยาบาลได้แล้วแจ้งความเอาผิดนายเดวิด และได้มีการนำคลิปพฤติกรรมของนายเดวิด โพสต์ในโลกออนไลน์ ก็ถูกนายเดวิดฟ้องกลับเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยให้เหตุผลว่า ผิดกฎจราจรโทษน้อยกว่า เพราะฉันรู้จักตำรวจใหญ่ ๆ ในภูเก็ตหลายคน สุดท้ายคนขับรถพยาบาลถูกสั่งให้ลบคลิป และบังคับให้ถ่ายคลิปโพสต์ขอโทษเป็นเวลา 7 วัน โดยให้มีข้อความว่า "ต่อไปจะไม่โกหกและไม่ทำตัวแย่ ๆ แบบนี้"



ว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ บอกว่า ดีใจที่เหตุการณ์นี้จบลงด้วยดี เมื่อนายเดวิดมาขอโทษ ก็พร้อมจะจบ ไม่อยากมีเรื่องมีราวอะไร วันนี้ความรู้สึกดีขึ้นแล้ว เราคนไทย มีน้ำใจและให้อภัย นอกจากนี้ยังอยากให้นายเดวิดขอโทษในกลุ่ม "ขับรถแบบที่ต้องประจาน ภูเก็ต" ที่ตนเองได้โพสต์คลิปในวันเกิดเหตุเป็นเวลา 7 วันเท่านั้น ซึ่งได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนไว้แล้ว เพื่อแลกกับตอนที่นายเดวิดได้ให้ตนขอโทษมาแล้ว ทำให้มีความเสียหายเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม วันนี้ตำรวจ สภ.ถลาง ได้นัดนายเดวิดมาพบ เนื่องจากจะส่งตัวฟ้องต่อพนักงานอัยการภูเก็ต ในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจหมอธารดาว หลังพนักงานสอบสวนได้ทำหลักฐานส่งฟ้องนายเดวิด ต่อพนักงานอัยการ เสร็จสิ้น ก็มีเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต 2 นาย มารอรับตัวนายเดวิดกลับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการเพิกถอนวีซ่าประกอบธุรกิจ ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 13 มีนาคมนี้



ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยืนยัน เพิกถอนวีซ่า "เดวิด" แล้ว พบเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่เจ้าตัวยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งใน 48 ชั่วโมง



พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บอกว่า กรณีนี้ มติคณะกรรมการจังหวัดฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า นาย เดวิด มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม กระทบต่อความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และเสนอมติต่อ ตม.ภูเก็ต ให้เพิกถอนวีซ่า ซึ่งผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 เป็นผู้พิจารณา ก็ได้ลงนามอนุมัติให้เพิกถอนวีซ่าของนาย เดวิด แล้ว



เนื่องจากพิจารณาในรายละเอียดของพฤติการณ์แล้วเห็นว่า "กระทำความผิดในลักษณะที่เป็นการกระทบต่อสังคมและความสงบสุขมาแล้วหลายครั้ง มากกว่า 3-4 เหตุการณ์ จึงน่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม" โดยตำรวจ ตม.ภูเก็ต จะต้องไปแจ้งกับนายเดวิด ว่าสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรได้หมดลงแล้ว และทำการควบคุมตัว ซึ่งจะต้องดำเนินการภายในวันนี้



แต่นายเดวิด ก็สามารถที่จะยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีความที่ยังไม่สิ้นสุดได้ และเมื่อประกันตัวไปแล้วจะสามารถอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไปได้จนกว่าคดีความจะสิ้นสุดด้วยวีซ่าต่อสู้คดีความ โดยระหว่างนี้จะต้องมีการมารายงานตัวตามเงื่อนไขการประกันตัวที่กำหนด



และเมื่อคดีความสิ้นสุดลงแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด นายเดวิดจะต้องถูกควบคุมตัวส่งมาที่ ตม. เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป และถูกขึ้นแบล็คลิสต์ ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก



นอกจากนี้ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังถูกเพิกถอนวีซ่า นายเดวิดก็สามารถใช้สิทธิขออุทธรณ์คำสั่งได้เช่นกัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้พิจารณาคำร้อง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/T6sbsVkFqw0