สังคม
ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง 'ยิ่งลักษณ์' เพิกถอนหมายจับ 'คดีโรดโชว์' ส่อใช้โมเดลเดียวกับ 'ทักษิณ' กลับไทย
โดย parichat_p
4 มี.ค. 2567
57 views
วันนี้ศาลฎีกาคดีนักการเมือง ยกฟ้อง คดีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ อีกแล้ว ทำให้กระแสเรื่อง "ยิ่งลักษณ์กลับบ้าน" ร้อนขึ้นมาทันที
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 คน ประกอบไปด้วย
-นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี
-นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
-บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน)
-บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
-นายระวิ โหลทอง กรรมการบริษัท สยามสปอร์ตฯ
ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้าง โครงการโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 อย่างเป็นธรรม โดยนำงบกลางมาใช้ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ บริษัท มติชนฯ และ บริษัท สยามสปอร์ตฯ จัดทำโครงการดังกล่าว ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐจำนวน 239,700,000 บาท
ซึ่งศาลใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษา โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ 9:0 พิพากษายกฟ้อง
เหตุผลสำคัญของศาล คือ เห็นว่าการดำเนินโครงการโรดโชว์ เป็นการดำเนินตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา / และเห็นว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพิจารณาร่วมกันของหน่วยงานต่างๆไม่ใช่เป็นการตัดสินใจของนางสาวยิ่งลักษณ์ และไม่ได้กำหนดเวลากระชั้นชิด เพียงเพื่อเป็นเหตุอ้างในการใช้งบกลาง
ประกอบกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมีความเห็นว่าสมควรที่นายกรัฐมนตรีจะอนุมัติงบกลางนี้ได้ จึงเป็นดุลย์พินิจที่กระทำไปบนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริงเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น
และในส่วนของนายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ ก็ไม่ปรากฏว่าพฤติกรรมที่มีส่วนร่วมหรือแนะนำโดยมิชอบ ในกระบวนการเสนออนุมัติงงบกลางในการดำเนินการ และไม่ปรากฏพฤติการณ์ในการร่วมกันแทรกแซงหรือมีคำสั่งให้ เลือกบริษัทมติชนและบริษัทสยามสปอร์ตเป็นผู้รับจ้างโครงการไว้ล่วงหน้าหรือกำหนดคุณลักษณะเฉพาะอย่างใดเพื่อเอื้อประโยชน์ หรือเลือกเฉพาะเจาะจง หรือกีดกันผู้เสนอราคารายอื่น ส่วนจำเลย 4-6 (บริษัทมติชนฯ / บริษัทสยามสปอร์ตฯ /นายระวิ โหลทอง)
จากข้อเท็จจริงทางไต่สวนรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด / ไม่ถือว่าเป็นการตกลงร่วมกันฮั้วประมูล จึงไม่ผิดตามคำฟ้อง และได้สั่งถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากออกหมายจับไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง ได้ออกหมายสัมภาษณ์ภายหลังรับฟังคำพิพากษา ระบุว่า คดีดังกล้าวเข้าสู่กระบวนการไต่สวนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2562 และเข้าสู่กระบวนกระบวนการศาลฎีกาตั้งแต่ปี 2565 สำหรับผู้ถูกฟ้องมันได้รับความทรมาน แต่วันนี้ดีใจที่ศาลท่านมีความเมตตา
ส่วนที่ศาลเพิกถอนหมายจับอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตนเพิ่งได้รับทราบ ก็ยังไม่ได้สื่อสารไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์
เมื่อถามว่าถือเป็นการล้างมลทินหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง บอกว่าไม่ได้เรียกว่าเป็นการล้างมลทินแต่เป็นเรื่องของการที่ได้ปฏิบัติงานอย่างสุจริตเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่เมื่อมีคนไปฟ้อง ป.ป.ช. ก็ต้องตรวจสอบตามหน้าที่แล้วพบว่ามีมูลจะนำไปสู่กระบวนการของศาลซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าโล่งใจเพราะต่อสู้กันมาหลายปี
ขณะที่นายสุรนันทน์ ได้ขอบคุณตุลาการศาลฎีกาที่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ผิด ที่ให้ความเป็นธรรม และขอขอบคุณทุกกำลังใจ จากทุกคนทั้งที่รู้จักตนและไม่รู้จักตน ยอมรับว่าสบายใจ เพราะในขณะนั้นตนก็ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ วันนี้ก็ถือเป็นการยืนยันความถูกต้อง
ด้าน รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์หลังเข้าไปร่วมฟังคำพิพากษา ว่า จากคำพิพากษาวันนี้ เชื่อว่าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ นำมาพิจารณาว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วในการกลับประเทศไทย และเชื่อว่าเป็นการนับหนึ่งของกลุ่มคนยิ่งลักษณ์ที่จะได้พบตัวจริงอีกครั้ง
ตอนนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีหมายจับคดีอาญาแล้ว เพราะถูกยกฟ้องไปแล้ว 2 คดี มีเพียงโทษจำคุกเพียง 5 ปี จากคดีจำนำข้าว ซึ่งถือว่าน้อยกว่าพี่ชาย และตนเชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์จะต้องมีการวางแผนกันแล้วและเชื่ออีกว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ จะใช้โมเดลเดียวกับพี่ชายกลับสู่ประเทศไทย
ย้อนไป เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566 หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เพิ่งมีมติเสียงข้างมากพิพากษา "ยกฟ้อง" น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเพิกถอนหมายจับข้อหา ม.157 ในคดีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. ส่วนคดีอื่น ๆ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยังค้างอยู่ ที่สำคัญคือ คดีที่ ป.ป.ช. ซึ่งมีอยู่อย่างน้อย 3 คดี คือ
-คดีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาค 2 ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา ยิ่งลักษณ์ พร้อมพวก รวมถึงทักษิณ ชินวัตร และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย น้องสาวอีกคนของนายทักษิณ
-คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ระหว่างปี 2548 - 2553 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้รัฐเสียหาย 1.9 พันล้านบาท
-คดีร่ำรวยผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pd61kBVdhPw