สังคม
ทนายฝั่งผู้ตาย เผย 'ภานุมาศ' เครียด โดนฝ่ายคู่กรณีใช้สื่อกดดัน ลั่นข้อเท็จจริงเคลื่อนหลายอย่าง
โดย parichat_p
26 ก.พ. 2567
91 views
ทีมข่าวช่อง 3 โทรศัพท์ไปสอบถามทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของฝั่้งผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ นางสาวภานุมาศเคยโทรมาเล่าระบายถึงความเครียดให้ฟัง เกี่ยวกับเรื่องของคดีอาญาที่ถูกฟ้อง
และปมสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย เกิดจากสื่อ ต่างๆ ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ตายก็ไม่ได้อยากมีคดีตั้งแต่ต้นแล้วก็อยากจะไปซื้อบ้านหลังดังกล่าว ไม่อยากมีข้อพิพาทกับใคร ผู้ตายเป็นคนดดี
และก่อนหน้านี้ นางสาวภานุมาศก็เคยโทรศัพท์ไปหาร้อยเวรเจ้าของคดี เพราะเครียดของกรณีที่เกิดขึ้น อยากคุยกับทุกฝ่าย ตอนแรกเข้าใจว่าเจ้าตัวสบายใจแล้ว เพราะไม่ได้มีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้แล้ว และช่วงวันมาฆบูชา เข้าใจว่าเจ้าตัวไปปฎิบัติธรรม และหลังวันหยุดกลับมา คงจะได้พูดคุยกันเรื่องความคืบหน้าทางคดี แต่กลับมาด่วนตัดสินใจไปเสียก่อน ตนเองรู้สึกเศร้าและคาดไม่ถึง
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการบ่น ในช่วงที่นักข่าวมาทำข่าวเยอะๆ ว่ารู้สึกเครียด ถึงกับอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งทุกคนก็ทราบอยู่ ทุกคนก็พยายามประคับประคอง และช่วงหลังเป็นข่าวก็ยังบ่นอยู่
ทนายวัฒนา กล่าวด้วยว่าตนอยากฝากถึงคนไทยทุกคนว่า การเสพข่าว การแสดงความเห็น ถ้าไม่รู้ความจริงทั้งหมด ก็จะเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง ก็อาจจะทำให้การแสดงความเห็นอาจจะไม่เหมาะสม
ขณะที่สื่อมวลชน ตนเองก็พูดหลายครั้งว่าจะต้อง ใช้เสรีภาพบนความรับผิดชอบ คดีบางอย่างไม่จำเป็นต้องออกสื่อก็ได้ แต่เมื่อออกข่าวมา ก็กลายเป็นผู้ร้ายสำคัญไปเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่มีการนำศพของผู้ตายออกจากบ้านที่เกิดเหตุ สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ ทนายวัฒนา ซึ่งทนายได้ย้ำว่าคู่กรณีใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ
ทำให้ผู้ตายเกิดความเครียด เกิดความกดดัน อีกทั้งมีโรคประจำตัวเป็นโรคร้ายแรง ทำให้จิตตกหลังเห็นการนำเสนอข่าวของสื่อจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตายเองก็อยากไกล่เกลี่ยกับเจ้าของบ้าน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุย ซึ่งจากพยานหลักฐานที่มีส่วนตัวก็คิดว่าสู้ได้ แต่สภาพจิตใจเขาคงรับไม่ได้
ในส่วนที่่สังคมวิจารณ์การทำงานของทนาย หากไม่ยุยงส่งเสริมอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทนายวัฒนา ระบุว่า ตนเป็นทนายก็มีหน้าที่ให้คำปรึกษา ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมาโทษทนาย เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายถูกดำเนินคดีอาญาก่อนอยู่แล้ว
ซึ่งหากเจ้าของบ้านไม่จำเลยดำเนินคดีอาญา ทั้งสองฝ่ายก็อาจจะไกล่เกลี่ยกันจบไปแล้ว ซึ่งผู้ตายก็โทรมาขอคำปรึกษาตน ก็ให้คำแนะนำว่าหากครอบครองเกิน 10 ปีก็มีสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ได้ ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาทั่วไป ยืนยันไม่ได้ยุยงส่งเสริม อีกทั้งผู้ครอบครองไม่ใช่ผู้ตายแต่เป็นพี่สาวเขา และส่วนนี้เป็นความเข้าใจของฝ่ายตรงข้ามแล้วไปพูดออกสื่อ ส่วนตัวคิดว่าจะดำเนินคดีในส่วนนี้ด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8SA_EpRmQTc