สังคม

'อัจฉริยะ' ยัน 'ธนดล' ไม่เกี่ยวคดีรีดเงิน ลั่นจ่อฟ้อง 'อธิบดีข้าว' หมิ่นประมาท

โดย panwilai_c

30 ม.ค. 2567

131 views

"อัจฉริยะ" นำเอกสารหลักฐานแชทระหว่าง "นายเอก" และ "นายธนดล" ยืนยัน "นายธนดล" ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรีดเงินอธิบดีกรมการข้าว เพียงแค่ให้คำปรึกษา



นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า วันนี้นัดกับนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาชี้แจงกับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยืนยันว่า นายเอก เป็นตัวกลางเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว โดยติดต่อระหว่างนายธนดล กับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แต่นาย ธนดล ยืนยันว่าไม่สามารถทำตามที่นายเอกบอกได้ นายเอก จึงได้ติดต่อนายหมู (สุธี) ซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีอีกคนแทน



หลังจากนายเอกนั้น นายหมูได้พาอธิบดีกรมการข้าวและเมีย นำเงินไปจ่าย ให้นาย ศรีสุวรรณก้อนแรก ที่บ้าน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 โดยมีทนายน้อยหรือนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เป็นผู้ยืนยันข้อมูล



สาเหตุที่ต้องมาชี้แจง เพราะอธิบดีกรมการข้าวให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็นคนโกหก ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ทั้งที่ข้อมูลของเขาเป็น 1 ในหลักฐานที่ทำให้ตำรวจขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมท้านายหมูให้ออกมาเปิดเผยว่าวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ไปบ้านศรีสุวรรณในฐานะอะไร และทำไมต้องจ่ายเงินดังกล่าวให้กับศรีสุวรรณ



ขณะที่พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการหารือ เนื่องจากนายธนดลตอนแรกประสานจะเข้ามาพร้อมกับนายอัจฉริยะ แต่ติดภารกิจไม่ได้เข้ามา พร้อมกับยืนยันว่า นายธนดล ไม่ใช่ "หมู" และที่นายอัจฉริยะเคยบอกว่า เป็นตัวกลางพาอธิบดีและภรรยาไปที่บ้านนายศรีสุวรรณ คือ นาย สุธี เป็นที่ปรึกษาอีกคนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ



โดยนายหมู ไม่ได้มีบทบาทอะไรในคดี แต่เมื่อมีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้นในกระทรวงเกษตรฯ ก็เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาใช้ให้เคลียร์ปัญหา ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็คงอยากแค่ให้เคลียร์ให้จบ โดยไม่ได้ดูในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร ซึ่งภรรยาของอธิบดียืนยันกับตำรวจว่า นายหมูไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงจะเชิญนายหมูเข้ามาให้ปากคำในสำนวนด้วย เมื่อถามว่าสรุปแล้ว วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 มีการจ่ายเงินหรือไม่ แต่ บิ๊กเต่าบอก ขอสงวนไว้ก่อน



ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า "เจ๋ง ดอกจิก" ถูกปลดจากคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขณะเรียกรับผลประโยชน์แล้วทำให้ข้อหาอ่อนลง หรือไม่



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ยอมรับว่า หากมีคำสั่งปลดก่อนเรียกรับผลประโยชน์จริง นายยศวริศ จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งปลด และก่อนที่จะออกหมายจับได้รับการยืนยันจาก ป.ป.ช. แล้วว่านายยศวริศ มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในขณะกระทำความผิด หากมีคำสั่งปลดจริง ก็จะต้องตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจน



ในขบวนการนี้ มีคนที่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแน่ๆ ขณะเรียกรับผลประโยชน์ คือ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ "ตูน" ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ เพราะเป็นคนเจรจานัดหมายในการวางเงินวันนั้น เมื่อมีหนึ่งคนเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ร่วมขบวนการก็ต้องเข้าข่าย "สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐฯ" ซึ่งตามกฎหมายจะต้องรับโทษ 2 ใน 3 เช่นกัน



เมี่อช่วงบ่ายที่ผ่านาม นาย ธนดล แจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง หลังถูกสื่อช่องหนึ่งรายงานภาพข่าว (Infographic) พาดพิงว่าตนเองเป็น 1 ในแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ผ่านการดำเนินรายการโดยพิธีกรข่าว 3 ราย ในรายการข่าวเช้าอรุณอัมรินทร์ และผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวดังกล่าวอีก 1 คน



ยืนยัน ไม่ได้ไปรับรู้เรื่องการออกหมายจับหรือการล่อซื้อใดๆ ส่วนเหตุการณ์วันที่ 17 มกราคม 2567 ที่นายศรีสุวรรณ / เจ๋ง ดอกจิก / น.ส.พิมณัฏฐา และคนขับรถได้เดินทางมาที่กระทรวงเกษตรฯ มีคนกลางอักษรย่อ อ. มาด้วย ประเด็นนี้อยู่ในสำนวนไม่ขอยุ่ง เพราะเขามีหน้าที่ไปรับเท่านั้น ดังนั้น การที่สำนักข่าวมากล่าวหาว่าเขาเป็นคนกลาง หรือออกข่าวพูดกันสนุกปากในรายการ ทำให้เสียหาย เอาไปเป็นประเด็นทางสังคม ทั้งที่เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) ตอนเย็นได้ให้ข่าวไปแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่องพวกนี้



ส่วนการแจ้งความสื่อ จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท พร้อมย้ำว่าที่ไม่แจ้งหมิ่นประมาท เพราะโทษมันเบาเกินไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iGU5tHC8CuE

คุณอาจสนใจ

Related News