แม่ร้องกระบะตู้ทึบไม่ปิดประตูท้ายซิ่งในซอย ฟาดหัวลูก 7 ขวบเจ็บ คู่กรณีไร้เยียวยา

เหตุการณ์นี้เตือนใจ คนที่ขับรถส่งของแบบมีประตูท้ายรถ ควรต้องระวัง และเช็คทุกครั้งว่าปิดปิดตูเรียบร้อยไหม ไม่อย่างนั้นอาจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้



รถกระบะตู้ทึบคันนี้วิ่งเข้ามาในซอยเอกชัย 127 ย่านบางบอน จังหวะเลี้ยวประตูตู้ทึบเปิดออก มาด้านข้างตัวรถ จากนั้นมีเด็กชายวัย 7 ขวบ ยืนเล่นอยู่ริมถนนหน้าร้านขายของชำในซอย ก็โดนฝาประตูของรถส่งของ ฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างแรง จนคนที่เห็นเหตุการณ์ยังตกใจ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566



นางสาว ชนิศา ไตรภูธร แม่ของเด็กชายที่บาดเจ็บ เล่าว่า ครั้งนั้นต้องพาลูกชายไปเอ็กเรย์สมอง เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดเลือดคั่งในสมองได้ ก่อนจะไปแจ้งความที่ สน.แสมดำ และได้เจอกับรถกระบะตู้ทึบคู่กรณี อ้างว่าขณะที่ขับรถเห็นลูกระนาดใกล้กับร้านค้าจึงเบรครถ จากนั้นประตูเลยเปิดออกมาไปฟาดกับผ้าใบของร้านค้า แต่ไม่รู้ว่าโดนหัวเด็กไปด้วย แต่เมื่อได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าเหตุการณ์ไม่ได้เป็นแบบที่คนขับรถบอก ฝาประตูเปิดออกอยู่แล้วตั้งแต่ขับรถออกจากที่จอด และขับด้วยความเร็วในซอยไม่ทันระวังเด็กหรือคนที่อยู่ในซอยเลย และตั้งแต่เกิดเหตุทางคู่กรณียังไม่เคยจ่ายเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว



ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเคยเจรจาเรื่องค่าบาดเจ็บกันหลายครั้ง เริ่มจากครั้งแรกไกล่เกลี่ยในชั้นสอบสวน คุณแม่เรียกค่าเสียหายไป 40,000 บาท ก็ยังไม่ยอมจ่าย จนเรื่องถึงชั้นศาล จึงขอเพิ่มเป็น 50,000 บาทไป เพราะต้องขาดรายได้ เสียเวลาทำงาน แต่คู่กรณีก็บอกเพียงว่า ได้เงินจากประกันรถยนต์ไปแล้ว จะมาเอาอะไรอีก ซึ่งเธอมองว่า เงินที่เรียกค่าเสียหายครั้งนี้เพื่อต้องการให้คู่กรณี ระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะชาวบ้านหลายคนบอกว่า ที่ผ่านมาก็ขับรถแบบไม่ปิดประตูท้าย และขับรถเร็วในซอย กระทั่งเกิดอุบัติเหตุกับลูกชายของเธอ หลังเกิดเหตุถามคนขับด้วยว่า ตัวล็อคเสียหรอหรือยังไง เค้าบอกไม่ได้เสีย แสดงว่าเกิดจากความมักง่าย



สอดคล้องกับข้อมูลของ นางธันญารัต เงาศรี เจ้าของร้านค้า ที่ยอมรับว่า รถคันนี้ก็ขับรถส่งของในซอยนี้เป็นประจำ และมักจะไม่ค่อยปิดประตูท้าย ขับรถเร็วเป็นประจำ ก็อยากให้รถคันนี้ขับรถช้าลง และปิดประตูก่อนออกรถทุกครั้งด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายของคนที่อยู่ในซอย และเด็กก็วิ่งอยู่ในซอยนี้จำนวนมาก



สำหรับความคืบหน้าคดี แม่ของเด็กชายที่บาดเจ็บ บอกว่า ศาลนัดสืบแพ่งพร้อมตัดสินคดีอาญาวันที่ 31 มกราคมนี้ หวังว่าคู่กรณีจะยอมชดใช้ หลังจากห่อนหน้านี้เจรจาต่อรองจาก 5 หมื่น เหลือแค่ 2 หมื่นแล้ว

https://youtu.be/qip2s0kxXpI