สังคม
แฟนคลับเชื่อมั่น 'ลุงพล' บริสุทธิ์ หอบช่อเงินให้กำลังใจหลังศาลให้ประกัน ลั่นขออยู่เคียงข้าง
20 ธ.ค. 2566
14 views
ลุงพล - ป้าแต๋น เปิดใจน้อมรับคำตัดสินศาล ลุงพลเสียงสั่นขอยอมรับและเตรียมต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ด้านทนายเผย อธิบดีผู้พิพากษาภาคสี่และหัวหน้าผู้พิพากษามีความเห็นแย้งในคดีให้ยกฟ้อง
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และน.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือแต๋น ได้เดินทางมาพร้อมกับทีมทนายความเพื่อแถลงข่าวหลังจากได้รับการประกันตัว
โดยก่อนจะเริ่มแถลงข่าว มีพิธีการมอบดอกไม้ซึ่งเป็นดอกไม้ช่อเงินสดจากแฟนคลับ จากต่างจังหวัด และในพื้นที่มอบให้กับลุงพลป้าแต๋นและทีมทนายความ
โดยนายสุรชัย สุรชัย ชินชัย หัวหน้าทีมทนายความ หรือทนายเบิ้ม แถลงว่าก่อนที่คณะทนายความจะชี้แจงกระบวนการขัดชั้นต่อไปก็ให้ลุงพลป้าแต๋นกล่าวความรู้สึกและความในใจ
ลุงพล กล่าวว่า ขอน้อมรับคำตัดสินของศาลชั้นต้นและวันนี้ลุงก็ได้รับคำสั่งศาลออกมาเรียบร้อยต่อไปก็เป็นหน้าที่ของทีมงานทนายอธิบายให้สื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป
ส่วนการอ่านคำพิพากษา ใน ห้องพิจารณาคดีตนเองฟังไม่ทันเพราะเยอะมากแต่ทราบใจความ แต่อธิบายได้ไม่หมด และขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีและเอฟซี
ทางด้านป้าแต๋นก็ขอบคุณเอฟซีทุกท่านที่คอยติดตามและให้กำลังใจลุงพลป้าแต๋น ทุกคนเข้าใจถ้าเป็นเอฟซีลุงพลป้าแต๋นจะเข้าใจ และรู้ว่าศาลเดียวไม่จบแน่นอน
"ศาลตัดสินเราน้อมรับและพร้อมต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไปขอบคุณสำหรับดอกไม้และความปรารถนาดีทุกท่านและเชื่อว่าทุกคนยังให้กำลังใจป้าแต๋นลุงพลต่อไป "
ส่วนเรื่องความรู้สึกน้อมรับตามคำตัดสินของศาลและพร้อมต่อสู้ในชั้นต่อไป เรื่องการยื่นอุทธรณ์นั้น ป้าแต๋นระบุว่า เป็นเรื่องของทนายความที่จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ป้าแต๋นเคยพูดว่าจะพูดหลังจากศาลพิพากษาแล้ว ป้าแต๋นบอกว่า วันนี้ยังไม่ขอพูดขอรอให้ถึงศาลฎีกาจนจบสิ้นคดีก่อนถึงจะพูด
จากนั้นทีมทนายความแถลงว่า ศาลท่านเชื่อว่าท่านการสืบสวนตำรวจ ต้องมีคนพาไปจึงทำให้น้องชมพู่เสียชีวิต ตามรายงานการสืบสวนของตำรวจคนที่จะเข้าหาผู้ตายได้จะต้องเป็นเครือญาตเท่านั้นโดยเครือญาต 14 คนมีลุงพลคนเดียวที่มีข้อพิรุธการรายงานการสืบสวนเวลา 09:10-น.09.14 น
จากนั้นตำรวจนำพยานแวดล้อมเข้ามาเชื่อมโยงบวกกับเส้นผมหนึ่งเส้นในรถยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มเส้นผมที่พบอยู่ข้างศพของน้องชมพู่และเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์หลักฐาน "ศาลจึงมีดุลย์พินิจฟังได้ว่าไม่มีคนอื่นพาไปนอกจากลุงพลคนเดียว " ส่วนข้อหาการพาเด็กไปจากบิดามารดามีโทษสูงสุด 15 ปีศาลลงโทษจำคุกลุงพล 10 ปี
ส่วนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาศาลเชื่อพยานหลักฐานลุงพลไม่มีเจตนาฆ่าเด็กแต่ระหว่างที่พาเด็กออกจากบ้านจะต้องระวังป้องกันไม่ให้เด็กเสียชีวิต ในทางพิจารณาเด็ก เสียชีวิต เพราะความประมาทของลุงพลคนเดียวตามมาตรา 291 โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
การพิจารณาฟังได้ว่าลุงพลประมาททำให้น้อง ชมพู่เสียชีวิต จึงลงโทษ 10 ปี รวมสองข้อหาเป็นจำคุก 20 ปี ส่วนข้อหาอำพรางซ่อนเร้นศพยกฟ้องจำเลยทั้งสอง
วันนี้เป็นที่สิ้นสุดว่าใครพาเด็กไปแม้จะไม่มีประจักษ์พยานแต่ดุลยพินิจของศาลมองว่าเป็นจำเลยที่หนึ่งคือลุงพล
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางฝ่ายโจทก์เรียกค่าปลงศพ 300,000 บาท โดยศาลให้จำเลยที่หนึ่งชดใช้จำนวน 150,000 บาท ส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดู ศาลให้ชดใช้ 1,020,000 บาทและค่าปลงศพ 150,000 บาท บาท ส่วนความผิดของป้าแต๋นอัยการฟ้องมาข้อหาเดียวคืออำพรางซ่อนเร้นศพซึ่งเป็นการยกฟ้อง
นอกจากนี้ทนายเบิ้มยังระบุว่า กระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้นจบสิ้นในวันนี้กระบวนการต่อไปก็เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะเขียนคำอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันนี้
อย่างไรก็ตามผลการพิพากษาตามศาลชั้นต้นมีความเห็นแย้งของหัวหน้าศาลและอธิบดีผู้พิพากษาภาค4แย้งไว้ก็จะ จะได้สอบถามเหตุผลในการแย้งในครั้งนี้ว่าทำไมทั้งสองท่านจึงให้เหตุผลในการยกฟ้อง
แท็กที่เกี่ยวข้อง