สังคม
ศิษย์ 'น้องไนซ์' ปะทะ 'เค สามถุยส์-อี้ แทนคุณ' ซัดนัว คอร์สเชื่อมจิต หากินกับเด็กหรือไม่?
โดย panwilai_c
15 ธ.ค. 2566
136 views
เปิดศึกกลุ่มป้องปกน้องไนซ์ ปะทะ เค สามถุยส์-อี้ แทนคุณ ขณะยื่นหนังสือตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังพบเรียกเก็บเงินคอร์สสมาธิเชื่อมจิต
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาทนาย ธรรมราช สาระปัญญา พร้อมกลุ่มสนับสนุน น้องไนซ์ เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่อ้างเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช สามารถเชื่อมจิตได้ แล้วมีคลิปเทน้ำรดหัวลูกศิษย์กว่า 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ขอให้ตรวจสอบกลุ่มคนที่บิดเบือนข้อเท็จจริง โจมตีน้องไนซ์ และขอให้ช่วยคุ้มครองเยาวชนด้วย
ทนายธรรมราช บอกว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลพยายามเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง เรื่องของคำสอนน้องไนซ์ลงในโซเชียล และหยิบข้อมูลขึ้นมาโจมตี ทั้งเรื่องเกี่ยวกับคำสอนและการหลอกลวงเงิน ส่วนตัวมองว่าคำสอนของน้องไนซ์เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องของการเรียกเก็บเงิน เป็นส่วนของผู้จัด ที่ทำหน้าที่ดำเนินการ เพราะมีค่าใช้จ่าย เรื่องสถานที่ ค่าอาหาร ที่พัก ตัวน้องไนซ์ เป็นเพียงวิทยากร ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ส่วนที่เห็นภาพน้องไนซ์รับเงิน ยอมรับว่าเป็นการรับเงินจริง แต่ภายหลังก็ส่งต่อไปสมทบในการสร้างสถานปฎิบัติธรรม
และที่คนสงสัยว่าการเชื่อมจิต คืออะไร ทนายธรรมราชบอกว่า เป็นวิธีการช่วยของคนที่มีวิปัสสนากรรมฐานสมาธิแล้วมีปัญหาติดขัด น้องไนซ์จะเชื่อมจิตไปช่วย ส่วนประเด็นที่ในโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่น้องไนซ์ถอดจิตคุยกับ ปูติน ยืนยันว่าน้องไนซ์มีเจตนาที่จะไปเผยแพร่และพุทธศาสนาในยุโรปและรัสเซีย ซึ่งเป็นแผนอนาคต ว่าหากมีโอกาสจะเข้าไปพูดคุยกับปูติน ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต แต่คนเอาไปบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิด
แล้วที่น้องไนซ์ไม่บวชเณรเพราะธรรมะ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหากมีความสามารถในการสอน ใครก็สามารถสอนได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งกายการแต่งกายหรือการบวช
ส่วนเรื่องเงินที่เปิดรับบริจาค ที่เป็นบัญชีส่วนตัวของนายแพทย์ท่านหนึ่ง ทนายธรรมราชอธิบายว่า จุดประสงค์นายแพทย์คนนี้ตั้งใจจะรวบรวมเงิน สร้างสถานปฎิบัติธรรม ซึ่งขณะนี้มีการยื่นเรื่องเปิดมูลนิธิแล้วแต่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ยืนยันว่าเงินส่วนนี้สามารถตรวจสอบเส้นเงินได้ ซึ่งตอนนี้ในบัญชีมีหลายแสนบาท และตอนนี้ก็ยังอยู่ครบ
แล้วที่เมื่อวานนี้มีอดีตคนศรัทธาน้องไนซ์ออกมาแฉว่า เข้าไปในกลุ่มโอเพ่นแชทของน้องไนซ์เพราะศรัทธามากว่า 3 ปี แต่ปรากฏว่าพอมีคำถามและข้อสงสัย ในการสอนและการเรียกเก็บเงินกลับถูกดีดออกจากแชท ในส่วนนี้ทนายความ ชี้แจงว่า หญิงคนนี้เพิ่งเข้ามาในแชทวันที่ 8 ธันวาคม หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมลักษณะเหมือนเป็นการล่อซื้อ เอาข้อมูลบิดเบือนไปเป็นหลักฐาน เช่น มีการส่งสลิปเงิน ทั้งที่เป็นกลุ่มสอบถามข้อธรรมะ ทำให้แอดมินจำเป็นต้องดีดออกไป
แต่ระหว่างที่มีการแถลงข่าว นายนิยม นพรัตน์ ในฐานะตัวแทนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนน้องไนซ์ ได้เข้ามากลางวงพยายามสอบถามเกี่ยวกับการเรียกรับเงินเรียกรับเงินค่าเข้าฟังธรรมะจริงหรือไม่ และ ข้อสงสัยเรื่องคำสอนของน้องไนซ์ ที่อ้างว่านั่งสมาธิแล้วกรรมตามไม่ทัน เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าตรงไหน ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการโต้เถียงกัน ไปดูบรรยากาศช่วงนี้กันหน่อย
ก่อนที่ทั้งกลุ่มคนสนับสนุนน้องไนซ์จะออกมาบอกว่าหากมีข้อสงสัย ว่าการเรียกรับเงินหรือคำสอนไม่ถูกต้องก็ให้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายเอา เพื่อให้ศาลพิสูจน์ความจริง ก่อนที่ทั้งสองฝั่งจะยุติการโต้เถียง
ต่อมา นายนิยม นพรัตน์ เค สามถุยส์ และนาย แทนคุณ จิตต์อิสระ ในฐานะรักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเศ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เช่นกัน โดยนำหลักฐานการจัดกิจกรรมกลุ่มของน้องไนซ์แนบมาด้วย เพื่อให้ตรวจสอบว่า เข้าข่ายแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบต่อเด็กหรือไม่ เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างหลอกลวงว่า มีเด็กอายุเพียง 8 ขวบ มีอภิญญา สามารถเชื่อมจิตจากการใช้เท้าสัมผัส และเก็บเงินคำร่วมงาน ค่าทำบุญต่าง คล้ายกับใช้เด็กเป็นเครื่องมือหลอกลวงประชาชน อาจเข้าช่ายผิดพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
พร้อมวอนให้ส่งนิติกรชำนาญการ โดยสนธิกำลังตำรวจ รวมไปถึงสหวิชาชีพสอบปากคำเยาวชน และผู้ปกครอง คณะผู้จัดงาน เพื่อตรวจเส้นทางทางการเงินตามกฎหมาย รวมไปถึงดำเนินคดีกับผู้ปกครอง ฐานปล่อยปละละเลยให้เยาวชนกระทำพฤติกรรมบิดเบือนลบหลู่พระพุทธศาสนา
แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังให้สัมภาษณ์ ทนายของกลุ่มสนับสนุน และศรัทธาน้องไนซ์ ได้เข้ามาตั้งคำถามว่านาย แทนคุณ นับถือศาสนาอะไร และเป็นชาวพุทธแท้หรือไม่ และมีปากเสียงกันอีกรอบ เรื่องข้อกฎหมายคุ้มครองเด็ก และกลุ่มสนับสนุนท้าให้ไปฟ้องศาล ทำให้สื่อมวลชนเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปห้ามปราม
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HB5W2MgoHs8