ต่างชาติกระหน่ำเทขาย ฉุดดัชนีหุ้นไทยร่วงแรง

หุ้นไทยร่วงแรง ต่างชาติเทขายหนัก ฉุดดัชนีทำจุดต่ำสุดเช้านี้ ลงไปถึง 26 จุด



โดยทันทีที่ตลาดเปิด หุ้นไทยก็ถูกเทขายออกมาอย่างรุนแรง จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ที่กังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ในประเทศขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน บวกรกับราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงหลุด 90 เหรียญ/บาร์เรล เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งหากย้อนไปดูในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (4 ก.ย.-2 ต.ค.) พบว่า ดัชนีหุ้นไทยลงไปกว่า 79 จุด หรือ 5.12% นักลงทุนต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.57 แสนล้านบาท



ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 37 บาท ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 11 เดือน ที่ 37.11 บาทต่อดอลลาร์ คิดเป็นอ่อนค่าลง 6.75% จากต้นปี โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า เป็นผลจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาด และมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี ซึ่งตลาดมองว่าอาจกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ประกอบกับนักลงทุนยังรอความชัดเจนของนโยบายการคลัง และการระดมทุนของภาครัฐ โดยแบงค์ชาติได้ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาทย่างใกล้ชิด และอาจเข้าแทรกแซงหากเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปรับตัวของภาคเศรษฐกิจ



ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่า ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด การส่งออกที่เป็นส่วนประกอบของจีดีพี. ประเทศไทยมากกว่า 50% ก็จะได้รับอานิสงส์ในเชิงบวก รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย แต่ยอมรับกระทบกับการนำเข้าน้ำมัน ที่ต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งในระยะยาวต้องหันไปใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/cow__u-S28Q