'ชัชชาติ' กำชับ จนท. เฝ้าระวัง พร้อมสั่งตรวจโครงสร้างอาคาร หลังเหตุกันสาดย่านเจริญกรุงถล่ม

กันสาดอาคารเก่าย่านเจริญกรุง ถล่มทับรถพัง 'ชัชชาติ' กำชับจนท. เฝ้าระวังอาคารเก่าถล่ม พร้อมสั่งเร่งสอบโครงสร้างอาคาร 



ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางคอแหลม เร่งตรวจสอบเหตุกันสาดย่านเจริญกรุงพังถล่ม เบื้องต้นพบเคยเป็นโรงแรมเก่าอายุ 30 ปี โดยหลังเคลียร์พื้นที่จะตรวจสอบถึงโครงสร้างอาคารว่าพังเสียหายหรือไม่ หวั่นอาจทรุดหรือถล่มลงมา



นายสายัณห์ กุศลพันธ์ นักจัดการงานโยธาชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางคอแหลม พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังบริเวณปากซอยเจริญกรุง 72/5 ที่เกิดเหตุผนังกันสาดติดตั้งอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น



โดยแผ่นกันสาดสูง 10 เมตร ยาว 25 เมตร พังถล่มลงมาทับรถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะกันสาดซึ่งเป็นยิปซั่มยุบตัวเนื่องจากฝนที่ตกหนัก ทำให้ยิปซั่มอุ้มน้ำ



โดยนายสายัณห์ระบุกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ว่า เบื้องต้นจะต้องรอทางการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการซ่อมแซมเสาไฟที่ได้รับความเสียหายก่อน จากนั้นจะดำเนินการเคลียร์เศษซากที่พังถล่มลงมา คาดว่าใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงจึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ



ส่วนภายในอาคาร เบื้องต้นยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากเศษซากพังถล่มลงมากีดขวางทางเข้าอาคาร ซึ่งต้องรอดำเนินการเคลียร์เศษซากให้แล้วเสร็จ จึงจะสามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพภายในอาคารได้ว่า มีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารหรือมีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมาอีกหรือไม่



จากการประเมินอาคารบริเวณด้านนอก เห็นว่าไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างแต่อย่างใด แต่เพื่อความปลอดภัย สำนักเขตจะเตรียมออกประกาศห้ามใช้อาคารดังกล่าว 30 วัน และได้สั่งการให้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าว ไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าออกโดยเด็ดขาด



พร้อมกันนี้จะส่งประกาศห้ามใช้อาคารให้เจ้าของอาคารรับทราบ เพื่อดำเนินการตรวจสอบสภาพอาคารและปรับปรุงก่อสร้างอาคารใหม่หรืออาจจะพิจารณาทุกอาคารหลังดังกล่าว หากพบว่ามีโครงสร้างที่ได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง



สำหรับอาคารหลังดังกล่าวนั้น ก่อสร้างมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ใช้เป็นอาคารธนาคาร ภายหลังไม่ใช้ประโยชน์อะไร โดยได้รับการอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง



ส่วนตัวผนังกันสาดนั้นถือว่าเป็นส่วนที่ต่อเติมเพื่อติดตั้งป้ายธนาคาร ซึ่งต้องขออนุญาตจากทางสำนักงานเขต เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า อาคารหลังนี้ได้ขออนุญาตต่อเติมติดตั้งผนังกันสาดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ดังนั้นในความผิดทางอาญา เจ้าของอาคารไม่มีความผิดแต่อย่างใด



ทั้งนี้ เจ้าของอาคารจะต้องรับผิดในทางแพ่งกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของราชการ โดยเฉพาะเสาไฟฟ้าที่เสียหาย 2 ต้น เสากล้องวงจรปิด ป้ายบอกทาง และสาธารณูปโภคอื่น ๆ



โดยสำหรับสำนักงานเขตบางคอแหลมและ กทม. จะดำเนินการตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อเรียกร้องเอาผิดทางแพ่งกับตัวเจ้าของอาคารต่อไป เพราะถือว่าเจ้าของอาคารหลังดังกล่าว ปล่อยปละละเลย ไม่รับผิดชอบที่จะตรวจสอบสภาพของอาคารให้ปลอดภัย



ขณะที่สภาพการจราจรบริเวณถนนเจริญกรุง ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรจำนวน 1 เลน เพื่อให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ จึงทำให้การจราจรเคลื่อนตัวลำบาก แต่ไม่ถึงกับติดขัด



ผู้ว่าฯกทม.กำชับเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังอาคารเก่าถล่ม หลังเกิดเหตุกันสาดอาคารพาณิชย์ ปากซอยเจริญกรุง 72/5 พังถล่มลงมาทับรถยนต์เสียหาย



นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึง เหตุอาคารพาณิชย์พังถล่มลงมาทับรถยนต์เสียหาย บริเวณปากซอยเจริญกรุง 72/5 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า เป็นอาคารร้างอายุ 40 ปี กันสาดอาคารหลุดร่วง ลงมาเมื่อคืนนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ประเมินความปลอดภัยของอาคารอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่ กทม.ทำแล้วในขณะนี้คือ กันพื้นที่ไม่ให้คนเดินผ่าน



ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวอีกว่า ถ้าอาคารไหนมีความเสี่ยงภัย กทม.มีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว โดยเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาแต่ละเขต ต้องดูแลอาคารในพื้นที่ของตนเอง หลักการป้องกันคือคนที่ลงพื้นที่อยู่แล้ว เช่น เทศกิจในพื้นที่ของตนเอง ต้องช่วยกันสังเกตด้วย ส่วนฝ่ายโยธาต้องลงพื้นที่ดำเนินการ จากนี้จะมอบให้ให้รองผู้ว่าฯกทม.ทำแนวปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่แต่ละเขตอีกครั้งหนึ่ง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/R67j_H3a_H4