ผอ.-ครู โต้ปมสั่ง นร.ลุกนั่งจนกระดูกร้าว ยันไม่ถึง 150 ครั้ง ย้ำติดตามอาการตลอดไม่ละเลย

ผอ.โรงเรียนแจงแล้ว กรณีพ่อร้องสื่อ ลูกชายวัย 12 น้ำหนัก 80 กก. ถูกครูทำโทษสั่งลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกระดูกขาแตก ไปหาหมอพบอาการหนัก นอนรักษาตัว 5 เดือน อดเรียนต่อ ยืนยันทำโทษจริง แต่ไม่ได้สั่งเด็กลุกนั่งถึงร้อยตามที่เด็กอ้าง



จากกรณี นายพงษ์ (นามสมมติ) พ่อชาวลำพูน เล่าว่า น้องตุ้ย ลูกชายวัย 12 ปี มีน้ำหนักตัวมากถึง 80 กิโลกรัม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลำพูน หลังจากบาดเจ็บกระดูกแตกร้าวและอักเสบที่ขาซ้าย สาเหตุเกิดจาก เมื่อเช้าวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ลูกชาย ลืมเอาหน้ากากอนามัยมาโรงเรียน จึงถูกทำโทษสั่งให้ลุกนั่ง 50 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกลูกชาย บอกว่า เริ่มเจ็บขาแล้ว และในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ลูกชายกับเพื่อนๆ เข้าห้องเรียนช้า เพราะไปเล่นฟุตบอล ครูก็ลงโทษอีกให้ลุกนั่ง พร้อมกับเพื่อนๆ ทั้งห้องอีกคนละ 100 ครั้ง



ต่อมา ลูกชาย กลับบ้านก็รู้ตัวว่าเจ็บขามาก แต่ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะกลัวครู และกลัวที่จะไปหาหมอ วันต่อมาก็ไม่สามารถไปโรงเรียน เพราะอาการหนักมาก เดินไม่ได้ ตนจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลทุ่งหัวช้าง ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. เป็นต้นมา ทำให้ไม่ได้ไปเรียนหนังสือตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน และวันนี้ลูกชายก็ไม่ได้ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยม 1 อีกด้วย



ลูกตนรักษาตัวที่บ้านสลับกับมารักษาที่โรงพยาบาลตลอดมา ทางครอบครัวก็แจ้งให้ครูที่ลงโทษลูกทราบ ตอนนั้นลูกยังเรียนไม่จบ ป.6 ตนได้พูดคุยกับครู และทางโรงเรียนก็ได้มอบเงินมา 1 หมื่นบาท จากนั้นสำนักงานเขตการศึกษาฯ ก็นำเงินมามอบให้อีก 3 พันบาท แล้วก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออีกเลย ทั้งที่ตนหมดเงินค่ารักษาไป รวมประมาณ 5 หมื่นบาทแล้ว



วันนี้อาการลูกหนักขึ้น จึงไปที่โรงพยาบาลทุ่งหัวช้าง หมอเห็นว่าอาการหนัก และรักษาตัวมานานแล้ว แต่ไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลลำพูน โดยผลการตรวจพบว่า กระดูกร้าวและอักเสบ แผลติดเชื้อเพิ่มอีก ทางโรงพยาบาลลำพูนไม่สามารถรักษา เมื่อเช้านี้ได้ส่งตัวลูกไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ หมอวินิจฉัยว่าจะต้องผ่าตัด แต่ยังไม่ระบุวัน



ขณะที่ตนประสานไปที่โรงเรียนเพื่อทวงถามความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นกับลูก ก็ได้รับคำตอบว่า"วันนี้ลูกไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนแล้ว" ตนจึงมาร้องสื่อ เพื่อขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย



ล่าสุด ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับ นายบัณฑิต กันธิวัง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนโป่งแดง ชี้แจงว่า วันเกิดเหตุ (9 ก.พ.) ตอนแรกเด็กถูกครูสั่งทำโทษให้ลุกนั่งประมาณ 20-30 ครั้ง ช่วงบ่ายเด็กเข้าเรียนสายจึงถูกครูสั่งทำโทษอีก 20 ครั้ง และให้เก็บขยะ ไม่ได้สั่งทำโทษเป็นร้อยครั้งตามที่เด็กอ้าง



และหลังทราบว่า เด็กไม่สบายทางโรงเรียนก็ได้ไปเยี่ยมที่บ้าน และได้พาเด็กไปหาหมอ เพราะปวดเข่าซ้าย กระทั่งวันที่ 16 ก.พ. ผู้ปกครองมาบอกว่า สาเหตุที่เด็กปวดขามาจากการที่ครูสั่งทำโทษให้ลุกนั่ง ซึ่งครูก็ยังไปเยี่ยม และติดตามอาการเด็กเรื่อยมา จนวันที่ 20 ก.พ. ครอบครัวให้ครูไปผูกข้อมือให้เด็ก และขอขมาเจ้าที่ตามความเชื่อ ครูก็ไป



และวันที่ 23 ก.พ.ทางครูก็รวบรวมเงินกันได้ประมาณ 10,000 บาท และนำไปมอบให้กับครอบครัวเด็ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา จนกระทั่งทราบว่า ขณะนี้เด็กอาการหนัก ตอนนี้ทางโรงเรียนกำลังหารือ เพื่อช่วยเหลือเด็กเช่นกัน และจะเข้าไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาล ยืนยันที่ผ่านมาทางโรงเรียนไม่เคยละเลย คอยติดตามอาการเด็กมาโดยตลอด



ด้าน นายนพดล มังสังข์ อายุ 30 ปี ครูประจำชั้น เผยว่า หลังทำโทษน้องตุ้ยก็มาแล้วตามปกติ ถ้าดูจากกล้องวงจรปิดตอนที่พักเที่ยงจะเห็นน้องวิ่งได้อยู่



กระทั่งผู้ปกครองมาแจ้งว่าน้องเจ็บขา ทางครูก็ดูแล ทั้งส่งข้าวเที่ยงให้ พาไปส่งโรงพยาบาล เอาข้อสอบให้ไปสอบถึงที่บ้าน เพื่อให้น้องจบการศึกษา จนล่าสุดผู้ปกครองมาขอให้ไปส่งโรงพยาบาล เพราะเด็กลุกไม่ได้ แต่ไม่ได้มีอาการเจ็บปวด ตนจึงพาไปหมาหมอที่โรงพยาบาล จนทราบว่าเด็กกระดูกแตก ซึ่งตนก็ได้ถามหมอว่า การให้เด็กลุกนั่งจะทำให้กระดูกแตกหักได้หรือไม่ ซึ่งหมอก็บอกว่า เป็นไปได้ยากเพราะเป็นกระดูกขาชิ้นใหญ่ แข็งแรงมาก ต้องโดนกระแทกอย่างแรงเท่านั้น ซึ่งผู้ปกครองก็ยืนยันว่า เด็กไม่เคยไปกระแทก หรือรถล้มแต่อย่างใด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/32dP6P9ghjo