สังคม
'ทนายพัช' เข้ารับทราบข้อหาแล้ว-'บิ๊กโจ๊ก' ไม่หวั่นถูกฟ้อง พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ยันทำตามกฎหมาย
โดย panisa_p
26 พ.ค. 2566
50 views
ความคืบหน้าคดีของ "แอม ไซยาไนด์" ขณะนี้มีผู้ต้องหาเพิ่มเป็น 3 คน แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาคนล่าสุด คือ ทนายพัช ทนายความส่วนตัว ของ แอม โดนดำเนินคดีฐานให้การสนับสนุนในการทำลายพยานหลักฐาน และยังบอกด้วยว่า แอมจะฟ้องกลับตำรวจ "ฉลองเมรุพ.ร.บ.อุ้มหาย"
เมื่อช่วงเที่ยงครึ่งที่ผ่านมา นางสาว ธันย์นิชา สุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของแอม สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ พร้อมทนายความที่ปรึกษากฎหมาย เข้ารับทราบข้อหาที่กองปราบปรามตั้งแต่เช้า โดยใช้เวลาการสอบปากคำ ราว 3 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมแจงว่า สาเหตุที่ไม่ได้มาพบตำรวจตั้งแต่วันที่บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปยื่นต่อศาล เพราะยังไม่ได้รับหมายเรียก ไม่ได้มีเจตนาหลบหนีหรือประวิงเวลา
ส่วนคำให้การในวันนี้ ทนายพัช ยืนยัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่รู้เรื่องกระเป๋าของก้อย ผู้เสียชีวิต ว่าถูกส่งไปให้ใคร และการที่เธอถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา เพราะถูกผู้ต้องหาในคดีนี้อีกคนซัดทอด และที่ผ่านมาเธอให้คำแนะนำเรื่องพยานหลักฐาน เป็นการทำหน้าที่ของทนายความโดยสุจริต อยู่ในกรอบของข้อกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการถูกซัดทอดเพราะไม่อยากให้เธอมาเป็นทนายความให้ "แอม" เพราะเธอรู้รายละเอียดคดีเยอะ เมื่อทีมข่าวถามว่า แล้วรู้จักกับ "แก้ว" พยานที่ "แอม" ส่งกระเป๋าไปให้หรือไม่ ทนายพัช เลี่ยงที่จะไม่ตอบและบอกว่าทุกอย่างอยู่ในสำนวน
ส่วนเรื่องศึกทนายความ ระหว่าง ทนายกุ้ง กฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายแม๊ และทนายพัช เมื่อช่วงเช้าทนายกุ้ง ประกาศถอนตัวไปแล้ว ขณะที่ทนายพัช โชว์เอกสารคำสั่งศาลยืนยันว่าเธอ คือ ทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งคนแรก และเป็นทนายความหลัก หากทนายคนไหนจะเข้ามาทำคดีต้องปรึกษาเธอก่อน พร้อมติงทนายกุ้ง อยู่ ๆ เข้ามาขอเป็นทนาย และไปคัดสำนวนคำฟ้องฝากขังโดยพละการ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่ทนายความคนอื่นอยู่ๆ ยื่นมือเข้ามา เป็นเพราะมีคนต้องการเตะตัดขาดเธอ ไม่ให้เข้ามาทำคดีนี้หรือไม่
และในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ทนายพัช เตรียมเบิกตัวแอมจากทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อมาไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่แอมได้ยื่นฟ้อง นาย รพี ชำนาญเรือ ผู้ซึ่งออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องก้อย และครอบครัวผู้เสียชีวิต ในความผิดฐานหมิ่นประมาท กรณีไปออกรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งและพูดถึง แอม บอกว่า "แอมพูดโกหก โกหกตำรวจ โกหกจนหัวปั่น"
และแอมยังเตรียมฟ้องบุคคลอื่นเพิ่มอีก ทั้งสื่อมวลชน และตำรวจ ซึ่งประเด็นที่จะฟ้องตำรวจ นอกจากเรื่องของ มาตรา 157 ฐาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว จะฟ้องในความผิดพ.ร.บ.อุ้มหาย ด้วย ซึ่งที่ปรึกษากฎหมายของทนายพัช ใช้คำพูดว่า "ไม่รู้ใครจะฉลองเมรุ ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย"
พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ทนายพัช ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การแย้งในประเด็นต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนสงสัย ซึ่งคำให้การต่างๆ ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ และไม่สามารถหักล้างประเด็นต่างๆ ในคดีได้ แต่ยืนยันว่า พยานหลักฐานที่ใช้ดำเนินคดีกับทนายพัช มีความชัดเจนว่า มีพฤติการณ์เกินกว่าการเป็นทนายความ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะที่บิ๊กโจ๊ก บอกว่า การสอบปากคำ แอม ทุกครั้งที่ไปในเรือนจำ เป็นการร้องขอของผู้ต้องหาเอง และยืนยันทุกครั้งที่สอบ ไม่ได้ข่มขู่ หรือบังคับขู่เข็นอะไร เพราะจนถึงตอนนี้แอมก็ยังไม่ได้รับสารภาพ ยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และหากทนายพัช ยืนยันว่าจะฟ้องก็ฟ้องไป แต่สุดท้ายก็ต้องจำนนต่อหลักฐาน เพราะคดีนี้หลักฐานไปไกลแล้ว และหากหลักฐานไม่เพียงพอศาลคงไม่ออกหมายเรียก พร้อมทิ้งท้ายว่า "กฎหมายก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เวรกรรมก็มีอยู่จริง"
ล่าสุดบิ๊กโจ๊กสั่งรื้อคดีการเสียชีวิตของ อดีตผู้กำกับ สภ.บางแพ จังหวัดราชบุรี ที่หัวใจวาย เมื่อปี 2563 ขณะปั่นรถจักรยานที่บ้านแหลม จังหวัดราชบุรี เพราะสันนิษฐานว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ "แอม" เนื่องจากก่อนจะไปปั่นจักรยาน ได้ให้ "แอม" มาเอาเงินที่บ้าน เพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย จากนั้นหัวใจวาย และรักษาตัวอยู่ร่วมครึ่งเดือน แล้วก็เสียชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหยื่อของ แอม เสียชีวิตเช่นกัน
ตอนนี้ชุดสอบสวนได้เชิญบุคคลใกล้ชิดของอดีตผู้กำกับ มาสอบปากคำที่ตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง
แท็กที่เกี่ยวข้อง
