คนขับรถเมล์ขอขมาญาติ 'ยายยุพิน' เผยเตรียมบวชให้ วงจรปิดชี้ชัด ยายถูกทับ ไม่ได้ถูกจยย.ชนก่อน

กรณีที่คุณยายยุพินวัย 83 ปี โดนรถเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต และญาติคาใจว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนคุณยายยุพินก่อนหรือไม่ ล่าสุดทีมข่าวได้วงจรปิดขณะเกิดเหตุมาแล้ว



นี่เป็นวินาทีที่คุณยายยุพิน วัย 83 ปี กำลังเดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย ซึ่งตอนที่คุณยายเดินมาถึงกลางถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเมล์สาย 66 กำลังเลี้ยวขวามาพอดี ทำให้ด้านข้างรถเฉี่ยวคุณยายล้มลงตรงกลางถนน แต่เหมือนคนขับรถเมล์ยังไม่รู้ตัว จึงไม่ได้หยุดรถ ทำให้ล้อหลังของรถเมล์ทับช่วงต้นขาของคุณยายจนขาหักทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะหยุดรถ



ซึ่งตอนนั้นมีรถจักรยานยนต์อีกคันมาจอดข้างๆ คุณยายที่ยุพินตอนเกิดอุบัติเหตุพอดี ก่อนจะขี่รถออกไป ทำให้หลายคนเข้าใจว่าถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน แต่จริงๆ ไม่ใช่



คุณยายยุพินบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล แต่เพียง 14 ชั่วโมงหลังเกิดอุบัติเหตุ คุณยายยุพินก็เสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของญาติ ที่มาเฝ้าดูอาการตั้งแต่เช้า



วันนี้ นายอำพน ศรีนาม อายุ 35 ปี คนขับรถเมล์ และนางสาว ชนม์ชนก อุ่นเอม อายุ 30 ปี กระเป๋ารถเมล์ นำพวงมาลัยคนละพวงมาขอขมานาง ธัญพร ตันเจริญ อายุ 84 ปี อาของผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่า ขอโทษ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



ขณะเกิดเหตุยอมรับว่ามองไม่เห็นผู้เสียชีวิตจริงๆ โดยนาง ธัญพร รับคำขอโทษและพูดปลอบทั้งคู่ว่า "ไม่ถือโทษโกรธใคร และขออโหสิกรรมให้ทั้งคู่ หลังจากนี้ก็ให้กลับไปทำงาน และจงมีสติกับทุกอย่าง"



นาย อำพล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่า ตอนนี้ทุกข์ใจมาก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากนี้จะขอรับผิดชอบและช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุ เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง เนื่องจากปกติรถเมล์แล้วสายนี้เมื่อถึงแยกศรีย่านจะต้องขับตรงไป แต่ปรากฎว่าถนนสามเสนปิดการจราจรเพราะซ่อมแซมถนน ทำให้ต้องเลี้ยวขวาเพื่ออ้อมไปใช้อีกเส้นทาง ด้วยความไม่ชินเส้นทางทำให้ระหว่างที่เลี้ยวมองไม่เห็นว่ามีคนข้ามถนน



เช่นเดียวกับนางสาว ชนม์ชนก พนักงานเก็บเงินที่ยังร้องไห้เสียใจ และบอกว่าทำใจไม่ได้ แม้ว่าตอนเกิดเหตุเธอจะอยู่บนรถ แต่ก็ไม่รู้และเห็นเหตุการณ์ กระทั่งรถทับตัวคุณยายไปแล้ว



นาง ธัญพร อาของผู้เสียชีวิต บอกว่า อโหสิกรรมให้กับทั้งคู่ ไม่ติดใจ ไม่โกรธแค้น เพราะเชื่อว่าเป็นเวรกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ในใจก็ยังทำใจไม่ได้ ใจจะขาด เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็ก กินข้าวนอนด้วยกันตลอด



ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย 2 โมงที่ผ่านมา ร่างของคุณยายยุพิน เดินทางมาถึงวัดจันทรสโมสร (จัน-สะ-โม-สอน) โดยมีคนขับรถเมล์ กระเป๋ารถ และหัวน้างาน ขสมก. มาร่วมงานด้วย ซึ่งทันทีที่ศพมาถึง นาย อำพล และหัวหน้างานก็เข้ามาร่วมยกศพคุณยายด้วย ก่อนจะเริ่มรดน้ำศพ ซึ่ง นาย อำพล รดน้ำศพทั้งน้ำตาและบอกว่าจะบวชหน้าไฟให้คุณยาย เพราะรู้สึกผิดจริงๆ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรนอกจากคำว่า "เสียใจ"



ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของคุณยายยุพิน อยู่ที่ซอยสามเสน 19 พบกับอาเขยของคุณยายยุพิน บอกว่า คุณยายยุพินจะเดินออกจากบ้านตอน 7 โมงเช้าทุกวัน เพื่อไปซื้ออาหารเช้าที่ตลาดศรีย่านมาให้คนในครอบครัวกิน และในวันเกิดเหตุคุณยายยุพินออกจากบ้านไปรอบนึงแล้ว ก่อนจะกลับมา และบอกว่าจะออกไปซื้อต้มเลือดหมูให้หลานชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งคนที่บ้านก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องไปก็ได้ แต่คุณยายก็ยังยืนยันที่จะเดินออกไป โดยกำแบงค์ร้อยออกไป 1 ใบ แต่ยังไม่ทันจะซื้อก็มาเกิดอุบัติเหตุก่อน ซึ่งตอนเกิดเหตุยังกำแบงค์ร้อยใบนั้นไว้ในมือ



ซึ่งภาพจำของคุณยายยุพินที่ทุกคนรู้จัก คือ เป็นคนจิตใจดี เป็นมิตรกับทุกคน และชอบอบรมดูแลสั่งสอนลูกหลานในบ้าน แม้คุณยายจะไม่มีสามี ไม่ได้แต่งงาน แต่ก็ดูแลลูกหลานเหมือนเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งในวาระสุดท้ายของคุณยายยุพิน ทำเรื่องขอบริจาคร่างกายไว้ แต่เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางโรงพยาบาลจึงไม่รับ



เมื่อรู้ว่าทุกเช้าคุณยายยุพิน หลังจากใส่บาตรแล้วต้องข้ามถนนไปซื้อต้มเลือดหมูให้หลานชายที่ป่วยเป็นมะเร็งทุกวัน ทีมข่าวได้คุยกับเจ้าของร้านต้มเลือดหมูแห่งนี้ ก็ยอมรับว่า คุณยายยุพินมาซื้อแทบทุกวัน ทำให้สนิทกับคนในร้าน ในแต่ละวันจะมาคุยเรื่องหลาน หรือเรื่องสุขภาพ ซึ่งคุณยายบอกว่า เดินบ่อยๆ ก็เหมือนได้ออกกำลังกาย แต่เมื่อวานก็แปลกใจที่คณยายไม่มาซื้อ กระทั่งมารู้ข่าวว่าถูกรถชน



ส่วนการดำเนินคดี พันตำรวจเอก นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผู้กำกับการ สน.สามเสน บอกว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยจะเรียกคนขับรถเมล์เข้ามาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อหา ใน 1-2 วันนี้



มีประเด็นหนึ่งที่ผู้กำกับพูดน่าสนใจ คือ บริเวณแยกศรีย่านและการจราจรโดยรอบย่านสามเสนนั้น ไม่มีสัญญาณไฟคนข้ามถนน ทั้งที่เป็นชุมชนมีคนสัญจรข้ามถนนไปมาโดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นจำนวนมาก หลังจากนี้จะหารือกับหน่วยงานทางจราจรที่เกี่ยวข้องในเรื่องขอป้ายสัญญาณเตือนข้ามถนน และสัญญาณไฟคนข้ามถนนมาติดตั้งในพื้นที่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/50F01TYMZ0I