สังคม

'ชูวิทย์' ควง 'อนันต์ชัย' ฟ้อง 'ตั้ม' พร้อมสอนมวย ถ้าใช้สติแถลงข่าว จะไม่ถูกฟ้องขนาดนี้

โดย panwilai_c

27 มี.ค. 2566

113 views

นาย ชูวิทย์ พร้อม ทนายอนันต์ไชย ชัยเดช ออกมาบอกว่า จะฟ้องทนายตั้ม หากหมิ่นประมาทนาย ชูวิทย์อีก คดีละ 100 ล้านบาท ย้ำ เรื่องที่ออกมาพูดไม่มีพยานหลักฐาน ระวังจะผิดมารยาททนายความ



วันนี้ (27 มี.ค. 66) นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ พร้อมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช มีนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่นาย ชูวิทย์ ฟ้องนาย สันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นจำเลย ในข้อหา แจ้งความเท็จ, สร้างหลักฐานเท็จ และหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาว่าโรงแรมเดวิส ปล่อยมห้มีคนเข้าไปเสพยาเสพติด และเปิดเกินเวลา



วันนี้ทีมข่าวสังเกตว่านาย ชูวิทย์ มีท่าทีสุขุมกว่าปกติ ไม่มีแอคชั่นเหมือนที่เคยเป็น โดยให้ทนายอนันต์ชัย แถลงถึงกรณีทนายตั้ม แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ในลักษณะที่กล่าวหาว่า นาย ชูวิทย์ ได้เรียกรับเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ เป็นเงิน 10 ล้านบาท



เบื้องต้น พบความผิดใน 3 ประเด็น คือ ทนายตั้มอาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะเรื่องที่ออกมาแฉ ไม่มีประจักษ์พยาน และทนายตั้มเป็นเพียงพยานบอกเล่า ที่ฟังเขามาอีกที เท่านั้น / และการที่ทนายตั้ม เอารูปที่ถ่ายแค่ถุงเงินมานั้น เข้าข่ายเป็นการแบล็คเมล์ แต่กลับไม่มีรูปชูวิทย์รับเงิน // ส่วนจำนวนเงินที่บอกว่า 10 ล้านนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าจำนวนเงินที่แท้จริงเท่าไหร่อาจจะถูกดึงไประหว่างทางก็ได้ แต่ยืนยันว่ามาถึงชูวิทย์เพียงแค่ 6 ล้าน ซึ่งตอนนั้นชูวิทย์ก็ปฏิเสธไปแล้วแต่ก็ไม่รับคืนจึงเอาไปทำบุญ



2.พฤติกรรมของทนายตั้ม ถือว่าผิดมรรยาททนายความ แถลงข่าวไม่มีหลักฐาน แต่เป็นการยกข้อมูลขึ้นมาลอยๆ เตรียมไปร้องสภาทนายความให้ตรวจสอบ



3.กรณีพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บริหาร ปปง. ที่ออกมา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าการนำเงินของนาย ชูวิทย์ ไปบริจาคอาจเข้าข่ายการฟอกเงิน ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ ถือว่าเข้าข่ายความผิดมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ มาตรา 200 เป็นเจ้าพนักงานกระทำการเพื่อช่วยให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับโทษหนักขึ้น



ทนาย อนันต์ชัย ยังบอกอีกว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไป นาย ชูวิทย์ จะไม่ออกมาตอบโต้ทนายตั้มอีก ไม่ใช่กลัว แต่ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน และจะใช้กระบวนการยุติธรรม คือ ศาลพิสูจน์ข้อเท็จจริง และหากทนายตั้มมีการแถลงข่าว หรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ในลักษณะใส่ความให้นายชูวิทย์ได้รับความเสียหายอีก ก็จะใช้สิทธิทางศาลทั้งทางอาญาและทางแพ่งและเรียกค่าเสียหายทุกครั้งไป ครั้ง 100 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่ทนายตั้มไปเรียกเงินค่าแถลงข่าว 3 แสน ส่วนตัวมองว่าไม่ผิด เพราะเขาเป็นเซเลป เป็นคนดัง และลูกความพร้อมจ่าย



ขณะที่นาย ชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นทนายความต้องใช้ความสามารถ ต้องใช้หลักฐาน ใช้พยาน แต่ปรากฏว่ามาใช้การแถลงข่าว ใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ไม่มีโจทก์ ไม่มีจำเลย ไม่มีหลักฐาน แปลว่าคุณพูดฝ่ายเดียวหรือไม่ สมาคมทนายความหรือสื่อมวลชนควรจะพิจารณา ส่วนเงิน 6 ล้านที่โรงพยาบาล 2 แห่ง คืนมา ให้ติดตามว่า พรุ่งนี้จะเอาไปคืนให้ใคร



3 ชั่วโมงหลังจากไต่สวนเสร็จ นาย ชูวิทย์ ลงมาจากศาล ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ถึงการแถลงข่าวของ ทนาย ตั้ม นายชูวิทย์ บอกว่า "ทนายอนันต์ชัย พูดแทนผมได้ตลอด พูดในสิ่งที่ผมอยากจะพูด โดยทนายมีสติมากกว่าผม เมื่อมีสติ เมื่อมีปัญญาคนฟังก็จะเข้าใจ ตอนนี้ผมเรื่องเยอะจนไม่มีสติเหมือนกัน แล้วปัญญามันก็เลยไม่มา"



ทนายอนันตชัย จึงบอกว่า การที่ทนายตั้มออกมาแถลงข่าวพาดพิงถึงนายชูวิทย์นั้น ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม ยิ่งแถลงยิ่งตาย อยู่เงียบๆ ดีกว่า ให้ดูอย่างคดีของนายสันธนะเป็นตัวอย่าง ที่ศาลรับฟ้อง



และที่บอกว่า 3 แสน ที่ทนายตั้มเรียกจากลูกความ อ้างว่าเป็นค่าเสี่ยงภัยที่เขาต้องโดนฟ้อง ส่วนตัวมองว่า หากเอาลูกความมานั่งแถลงข่าวเฉย ๆ แต่ไม่ได้ว่าความให้ หมายความว่าทนายตั้มไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าจะถูกฟ้อง และยังสอนมวยทนายตั้ม ว่าการแถลงข่าวจะต้องใช้สติให้มาก แล้วจะเกิดปัญญา



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JS1ort571Bc

คุณอาจสนใจ

Related News