สังคม

'ชูวิทย์' หอบหลักฐานยื่นรักษาการ รมว.คมนาคม ตรวจสอบพฤติกรรมบิ๊ก ขรก.-ฮั้วประมูล 40 โครงการ

โดย panisa_p

7 มี.ค. 2566

143 views

นายชูวิทย์หอบหลักฐาน ยื่นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตรวจสอบการฮั้วประมูล 40 โครงการ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท และจี้ตรวจสอบนางสุขสมรวย เลขานุการนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เหตุลงนามแทนรัฐมนตรีโดยมิชอบ



นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือไม้ปัดขนไก่ และไม้กวาด แสดงเชิงสัญลักษณ์ทำความสะอาดป้ายกระทรวงคมนาคม จากนั้นมอบแจกันดอกไม้ ที่ติดป้ายกระดาษเขียนว่า "ปราบโกง" ให้กับ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมเอกสารหลักฐานการทุจริตคอรัปชัน ที่เกิดขึ้นในช่วงที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ บริหาร



และยื่นหนังสือร้องเรียนให้นายอธิรัฐ ตรวจสอบเรื่องที่นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามเอกสารแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยนายชูวิทย์ได้ยื่นเอกสารเป็นหนังสือเร่งรัดและบริหารสัญญาโครงการ ของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 9 รายการ เม็ดเงินกว่า 322 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2566 ที่ลงนามโดยนางสุขสมรวย ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต ควบคุมงบประมาณและสั่งการแทนรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง



พร้อมระบุนางสุขสมรวยมีสามีเป็นระดับรองผู้การอำนาจเจริญ ซึ่งทั้งคู่มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ที่ต่อต้านนางสุขสมรวยในจังหวัดอำนาจเจริญอยู่เสมอ อีกทั้งนางสุขสมรวยเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาของนายสุทัศน์ เงินหมื่น ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และมีพฤติกรรมข่มเหง ใช้อำนาจบีบบังคับคน ภายใต้เงาของนายสุทัศน์เรื่อยมา โดยบีบเอาเปอร์เซนต์โครงการที่นายสุทัศน์ เอาลงมาขายงานกับอบต. ทำให้มีฐานะร่ำรวยอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ครอบครัว พ่อเป็นบุคคลล้มละลาย และน้องชายนางสุขสมรวยที่ชื่อนายบอย ยังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีตำแหน่งใหญ่โต จัดการงบประมาณทั้งหมดของชลประทาน เขต 7 ในจังหวัดอุบลราชธานี รวมไปถึงภาคอีสานหลายแห่ง ซึ่งงบประมาณดังกล่าวต้องผ่านนางสุขสมรวยทั้งหมด



นายชูวิทย์ยังได้ยื่นหลักฐานการฮั้วประมูลของกระทรวงคมนาคม รวม 40 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท เพื่อป้อนงานรับเหมาให้ตระกูลชิดชอบ พร้อมให้ตรวจสอบกรณีบริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์ที่ได้งานไป และกรณี หจก. บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ของนายศักดิ์สยาม ที่ใช้นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นนอมินี ซึ่ง หจก. บุรีเจริญชนะประมูลของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% แทบทุกงาน และทุกงานจะมีบริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์เป็นคู่เทียบประมูลเสมอ โดยแกล้งแพ้ให้หจก. บุรีเจริญ แต่หากเป็นงานนอกบุรีรัมย์ หจก. บุรีเจริญ จะเสนอต่ำกว่าราคากลาง 20-30% เพราะฮั้วไม่ได้



พร้อมโชว์เอกสาร บริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์ บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 5 ล้านบาท ส่วนหจก. บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 4.8 ล้านบาท ขณะที่นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ นอมินีนายศักดิ์สยาม บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 7.5 ล้านบาท



รวมไปถึงกรณีบริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์ ช.การช่าง และ ซิโนไทย ได้งานรถไฟฟ้าสัมปทานรางคู่ ไม่ต่างจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงที่สองที่มีการคอรัปชั่นเหมือนกัน



นอกจากนี้ยังขอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพฤติกรรมของนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งได้รับร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมชู้สาวกับลูกน้องในรฟม. (ชื่อว่าโอปอล) และเมื่ออยู่ในตำแหน่งก็มีฐานะร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความสนิทสนมกับนายปลิว ช.การช่าง จึงเป็นที่มาของการฮั้วประมูล รถไฟสายสีส้ม ซึ่งทั้งสองเรื่องถือเป็นการไร้จริยธรรมและผิดวินัยทางราชการอย่างร้ายแรง



รวมทั้งกรณีผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ กรณีที่ดินเขากระโดง ที่รัชกาลที่ 6 มอบให้เป็นที่ดินของรฟท. โดยขับไล่เฉพาะชาวบ้านทั่วไป แต่ไม่ฟ้องขับไล่ตระกูลชิดชอบ และหลีกเลี่ยงโดยใช้วิธีฟ้องศาลปกครองแทนเพื่อยื้อเวลา ซึ่งล่าสุด ได้สั่งการให้อธิบดีกรมที่ดิน เพิกถอนโฉนดแล้วโดยไม่รอให้รฟท.ยื่นฟ้อง



นายอธิรัฐ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคระกรรมการในแต่ละเรื่อง ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่นายชูวิทย์ ได้มายื่นหนังสือในวันนี้ ซึ่งในส่วนของกรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น จากการหารือเบื้องต้นกับผู้ว่าการ รฟม.เมื่อวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป 100% เนื่องจากยังมีคดีการฟ้องร้องที่ศาลยังไม่วินิจฉัยตัดสินใน 3 คดี จึงต้องมาพิจารณารายละเอียดให้รอบครอบอีกครั้ง โดยจะพยายามทำให้เร็วที่สุด จะทำให้ทุกเรื่องมีคำตอบสู่สังคมและให้เป็นไปตาระเบียบกฎหมาย ยืนยันว่าหากการดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะยังไม่นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอย่างแน่นอน ส่วนหากโครงการไหนของกระทรวงคมนาคมไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมาย จะเร่งรัดเดินหน้าให้เป็นรูปธรรมและนำมาพิจารณาทบทวนก่อนเสนอไปยัง ครม.เพื่อเดินหน้าต่อไป



ทั้งนี้นายชูวิทย์ ยอมรับโดยตรงว่าตั้งใจมาแฉในช่วงเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน หากแฉก่อนหน้านี้ก็คงจะไม่เกิดผลอะไร



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Dd9eS_VBFqs

คุณอาจสนใจ

Related News