สังคม

ลุยตรวจเพิ่ม 'ลาลิซ่า อาบอบนวด' หลังโดนจับเปิดโดยไม่ได้อนุญาต หวั่นนอมินีผู้ถูกอายัดทรัพย์

โดย panwilai_c

6 ก.พ. 2566

58 views

ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบ "ลาลิซ่า อาบอบนวด" ย่านรัชดา ลักลอบใช้น้ำบาดาลหรือไม่ หลังถูกตำรวจ สน.สุทธิสารจับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะลักลอบทดลองเปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต



เมื่อประมาณ 11 โมงครึ่งที่ผ่านมา พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบ ลาลิซ่าอาบอบนวด ภายในซอยรัชดาภิเษก 17 โดยใช้เวลาตรวจสอบราวครึ่งชั่วโมง



พลตำรวจตรี อรรถพล เปิดเผยว่า ที่ต้องตรวจเรื่องการใช้น้ำบาดาลเพราะเมื่อปี 2561 สถานบริการแห่งนี้เคยถูกดำเนินคดีเรื่องการลักลอบเจาะน้ำบาดาล ดังนั้นเมื่อจะเปิดให้บริการอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้เข้ามาตรวจสอบ พบว่าจุดที่เคยลักลอบขุดเจาะน้ำบาดาล ถูกโบกปูนทับปิดไปแล้ว และไม่มีร่องรอยการลอบใช้น้ำบาดาลอีก เมื่อตรวจค่าน้ำประปาก็ปกติ



ส่วนกรณีการลักลอบเปิดโดยไม่มีใบอนุญาต พบว่า ผู้ประกอบการเข้าใจว่า เมื่อซื้อใบอนุญาตประกอบกิจการมาก็สามารถใช้ดำเนินการต่อได้เลย ซึ่งความจริงทำไม่ได้ เพราะชื่อผู้ประกอบกิจการไม่ใช่บริษัทเดิม ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติใหม่



หากจะเปิด ต้องดำเนินการได้ 2 วิธี ได้แก่ ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการใหม่ หากจะใช้ใบอนุญาตเดิม ก็ต้องไปประชุมกรรมการบริษัทเดิมให้เปลี่ยนชื่อกรรมการหุ้นส่วนผู้จัดการ และยื่นขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ประกอบการด้วยว่าไม่เป็นบุคคลต้องห้าม



โดยใบอนุญาตประกอบกิจการเดิมนั้น ชื่อผู้ประกอบกิจการ เป็นชื่อบริษัท หจก.เวนิส และ หจก.ชวาลา เปิดในชื่อ โคปาคาบาน่า แต่ที่จะขอเปิดใหม่นั้น ชื่อผู้ประกอบกิจการ เป็นชื่อบริษัท หจก.ลาลิซ่า 2020 และ หจก.เดวิสโคปาคาบาน่า เปิดในชื่อ ลาลิซ่า ซึ่งผู้ประกอบการรายใหม่นี้ เป็นชาวไทย และยังไม่เคยยื่นขอตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้าม



ขณะนี้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ สน.สุทธิสาร อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกว่า การประกอบกิจการนี้จะเข้าข่ายการเป็นตัวแทนเพื่ออำพรางอะไรหรือไม่ เพราะอาจไปเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีประวัติถูกอายัดทรัพย์ หรืออาจเป็นการดำเนินการเพื่ออำพรางการทำธุรกิจอย่างอื่น ล่าสุดกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทสถานประกอบการลาลิซ่า เตรียมยื่นเอกสารชี้แจงในวันศุกร์นี้



ซึ่งในเรื่องนี้ นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "เรื่องตลกประจำวันอาทิตย์" อาบอบนวด 2 แห่งที่ตำรวจ สน.สุทธิสารเข้าตรวจค้นเป็นของ นาย กำพล วิคตอเรีย ผู้ต้องหาหลบหนีคดีค้ามนุษย์เด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ถูกจับเมื่อหลายปีก่อน และมาปัดฝุ่นเปลี่ยนชื่อของตัวเองใหม่ จาก "เดอะลอร์ด" เป็น "เดอะพาเลซ" และ "โคปาคาบาน่า" เป็น "ลาลิซ่า" ที่สำคัญน่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนเทาด้วย แต่จะเกี่ยวกับ "ตู้ห่าว" ไหม ไม่รู้



แถมยังบอกด้วยว่า วันดังกล่าวไม่ได้มีแค่ลูกค้า 1 คน แต่มีเป็น 10 คน และไม่ได้มานวด แต่เป็นการมาลองสถานที่ ทั้งอ่างและเตียง พอเด็กเชียร์แขกมาบอกว่าตำรวจมาทั้งหมดเลยหลบหนีออกเส้นทางด้านหลังตึกที่เชื่อมไปอีกตึกได้ ส่วนคนที่โดนจับสาเหตุที่หนีไม่ทันเพราะกำลังติดพันกับเด็ก



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/I2Zkwxdb5ak

คุณอาจสนใจ