แถลงยกระดับควบคุม-แก้ไขฝุ่น PM2.5 หลังวิกฤตติดอันดับโลก แนะใส่แมสก์เมื่อออกจากอาคาร

ตลอดทั้งวันนี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 ทุกพื้นที่กทม.สูงเกินมาตรฐานทุกเขต และส่วนใหญ่วิกฤตหนัก อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ จนติดอันดับโลก มลพิษทางอากาศยอดแย่ แต่ยังไม่ถึงขั้นปิดโรงเรียน แต่ขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน



วันนี้สภาพอากาศท้องฟ้ากทม. ขมุกขมัว ปกคลุมด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 จากอากาศในฤดูหนาวที่ปิดและลมพัดนิ่งสงบ จราจรคับคั่ง บวกซ้ำกับการเผาพื้นที่เกษตร ทำให้ค่าฝุ่น สูงเกินมาตรฐานทุกพื้นที่



แต่โดยส่วนใหญ่ จะอยู่ในระดับสีแดงมากกว่า สีส้ม เต็มพื้นที่ ถือว่า กระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างอย่าง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ



สำนักสิ่งแวดล้อมกทม.สรุปค่าฝุ่นPM 2.5 เมื่อเวลา 4 โมงเย็นที่ผ่านมา สูงสุด อยู่ที่เขตประเวศ 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร



ในแอพพลิเคชั่น IQAir พบว่า กทม.เมืองหลวงของไทย ติดอันดับที่ 10 ของโลก ที่มลพิษทางอากาศยอดแย่ มีค่า AQI (ดัชนีคุณภาพอากาศ) 159 ส่วน อันดับ 1 เมือง ฉงชิ่ง ของจีน ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอันดับ 12 ของโลก ค่าฝุ่น AQI อยู่ที่ 156



ก่อนหน้านี้ สภาพอากาศของกทม.อยู่ที่อันดับ 3 ของโลก มีค่า AQI ที่ 198 เป็นรอง เมืองมุมไบ ของอินเดีย และ ละฮอร์ ปากีสถาน



ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แถลง ยกระดับมาตรฐานคุมเข้มค่าฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้ความรุนแรงของฝุ่นอยู่ในระดับ 3 ไม่ถึงระดับ 4 ถึงขั้นต้องปิดโรงเรียน โดยในส่วนของหน่วยงานรัฐและเอกชน ได้ขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน Work From Home บ้างแล้ว



ด้านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ มีแผนดำเนินการอยู่ ตามหลักการถ้าฝุ่นเกิน 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องกัน 3 วัน ต้องมีการประกาศ Work From Home ล่าสุด กทม.ได้ประกาศตามขั้นตอนที่อยู่ในแผนแล้ว แต่โรงเรียนยังไม่สั่งปิดเพราะเชื่อว่านักเรียนมาโรงเรียน สามารถดูแลป้องกันฝุ่นได้ดีกว่าปล่อยให้เด็กวิ่งเล่นอยู่ที่บ้าน



ผู้ว่าชัชชาติ ได้แนะนำ ประชาชนให้ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากต้องออกนอกพื้นที่กลางแจ้ง และช่วงนี้ กทม.จะออกตรวจพื้นที่ตลอด เพื่อลดปัญหาการเผาชีวมวลในพื้นที่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/oKD_wdJT_Ew