สังคม

ครอบครัว 'จ่าเจมส์' ปักหลักรอไม่หมดหวัง พร้อมเผยแชทก่อน ร.ล.สุโขทัยล่ม - ทร.นำร่างผู้เสียชีวิตกลับทำพิธีบ้านเกิด

โดย panwilai_c

23 ธ.ค. 2565

102 views

ญาติของจ่าเจมส์ วัย 21 ปี กำลังพลที่สูญหายยังปักหลักรอน้องชายที่ท่าเรือ แม้จะเข้าสู่วันที่ 5 แล้วก็ตาม พร้อมเล่าเหตุการณ์ ช่วง4 ทุ่ม ก่อนเรือล่ม น้องยังโทรมาคุยว่า เห็นเรือหลวงกระบุรีส่องไฟมาที่เรือแล้ว



นี่คลิปวิดีโอความยาวเพียง 11 วินาที ที่ จ่าเจมส์ จ่าตรีโสภณ วงษ์สนิท ตำแหน่ง ช่างกลกองเรือยุทธการ ประจำเรือหลวงสุโขทัย หนึ่งในกำลังพลที่สูญหาย ส่งมาให้พี่ชายดู ตอนประมาณ 06.55น. ของวันที่ 18 ธันวาคม โดยเห็นสภาพของคลื่นลม ที่ถาโถมเข้ามาขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่กลางทะเล



ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ส่งแชทข้อความมาตอน 05:18 น. มาหาพี่ชาย บอกว่า "คลื่นแรง ตกเตียง หลังไปขูดกับเหล็กเตียงข้างๆ" พร้อมกับส่งภาพนิ่งบาดแผลที่บริเวณหลัง ภาพข้าวของที่กระจัดกระจาย และภาพที่นอนขดตัวอยู่บนเบาะ มาให้พี่ชายดู



โดยญาติของจ่าเจมส์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า "รูปสุดท้ายที่น้องส่งมาให้ดู ตอนเช้ามืดของวันที่18 น้องบอกเจ็บมาก แกต้องอดทนนะเจมส์ ความหวังตอนนี้ยังมีที่จะเจอน้อง ขอให้น้องปลอดภัย รอวันที่น้องกลับมาอย่างปลอดภัย เจ้รักเจมส์นะ"



คุณชญตร์ ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ได้พูดคุยกับพี่ชาย และ พี่สาวของจ่าเจมส์ เล่าว่า ครอบครัวเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี และมารอน้องชายอยู่ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แถวท่าเรือ ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว



พี่ชายเล่าว่า น้องชายเพิ่งจบจากโรงเรียนทหารเรือ และรับราชการช่วงเดือนเมษายน ก่อนจะบรรจุเข้ารับราชการเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ประจำที่เหลือหลวงสุโขทัย น้องชื่นชอบในการรับราชการ เพราะอยากให้ครอบครัวสบาย



ปกติเวลาน้องจะออกเรือ จะส่งข้อความบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆบนเรืออยู่ตลอด บางจุดที่อับสัญญาณข้อความก็จะขาดหายไป แต่เมื่อผ่านจุดที่มีสัญญาณ ข้อความก็จะขึ้นแจ้งเตือน ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของน้องตลอดเวลา



อย่างวันที่ 17 ธันวาคม ตอน 5 โมงเย็น น้องชายโทรศัพท์มาบอกว่ากำลังออกเรือ ต่อมาช่วงเวลา05:18 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม น้องได้ส่งข้อความมาบอกว่าคลื่นแรง ก่อนที่ 06.55น. ส่งรูป และคลิปมาให้ดู หลังจากนั้นได้ตอบข้อความน้องกลับไป แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ในและไม่ได้ข่าวอะไรจากน้องเลย



กระทั่งช่วงจากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. ทราบข่าวจากเพื่อนน้องชายที่เป็นนายทหาร บอกมาว่า เรือมีปัญหาน้ำเข้า เรือเริ่มเอียง



ต่อมาช่วงประมาณ 22.00 น. น้องชายได้ยืมโทรศัพท์เพื่อนโทรมาหาตนเอง และบอกว่าเรือเอียง กำลังนั่งอยู่บริเวณกาบเรือ และฝากบอกคนที่บ้านว่าตอนนี้ยังปลอดภัยอยู่ โดยตอนนี้นั้นเสียงในสายน้องชายยังปกติดี ก่อนที่น้องจะบอกว่า เห็นเรือหลวงกระบุรีส่องไฟมาที่เรือแล้ว ก็ทำให้ครอบครัวเบาใจลง



โดยจ่าเจมส์ได้โทรมาคุยกับพี่ชายนานประมาณเกือบ 10 นาทีได้ ก่อนที่สัญญาจะขาดหายไป ตอนนั้นก็คิดว่ามีเรือมาช่วยแล้วจึงเบาใจ แต่จากนั้น ช่วงประมาณ 23.30น.ทราบข่าวว่าเรือจม และมีรายชื่อน้องเป็นบุคคลสูญหาย



ตอนนี้สิ่งที่ครอบครัวเฝ้ารอ และนั่งติดตามอยู่ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพราะอยากทราบความคืบหน้าผลการปฏิบัติการ หวังให้น้องชายตน และกำลังพลทุกนายรอดปลอดภัย



ซึ่งสิ่งที่ญาติๆ ทำได้ในตอนนี้ นอกจากการนั่งรอฟังการชี้แจงจากหน่วยงาน ก็คือ การตระเวนไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงไปตามชายทะเล และเขียนข้อความส่งถึงจ่าเจมส์ว่า "เจมส์ พวกเจ้รออยู่น้อ" และ คำว่า "รอ"



เช่นเดียวกับญาติๆ ของกำลังพลที่สูญหาย ซึ่งเฝ้ารอคอฟังข่าว และติดตามการแถลงความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาอย่างใกล้ชิด โดยมีเจ้าหน้าที่ของแต่ละสังกัดของกำลังพล มาดูแลอย่างใกล้ชิด



ส่วนอีกราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางวันนา อินหา พี่สาวพันจ่าเอกสมเกียรติ หมายชอบ กำลังพล 1 ใน 6 นายที่เสียชีวิต ได้นำร่างน้องชายกลับบ้านเกิดที่ จ.สุรินทร์ หลังตั้งสวดอภิธรรมที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นเวลา 1 คืน ซึ่งกองทัพเรือได้จัดเตรียมรถทหารเพื่อเคลื่อนศพไปส่งที่บ้านเกิด ระหว่างเคลื่อนศพขึ้นรถ มีนายทหารที่เป็นเพื่อนๆ ร่วมรุ่นของ พันจ่าเอกสมเกียรติ ซึ่งรู้จักกันมากว่า 25 ปี มาร่วมส่งเกือบ 10 คน โดยได้เคาะโลงบอกลาเพื่อนให้ไปดี ขณะที่เพื่อนทหารบางนายอยู่ในอาการเศร้าโศก มีการปาดน้ำตาเป็นระยะ ส่วนญาติ ๆ กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดเตรียมรถตู้ไว้ให้เดินทางกลับไปที่ จ.สุรินทร์ ด้วย



นางวัน เผยว่า สาเหตุที่ต้องรีบเคลื่อนศพน้องชายกลับบ้านเกิด เพราะต้องการให้กลับไปตั้งสวดพระอภิธรรมต่อที่บ้าน ในพื้นที่ ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ให้ทันภายในวันนี้ ตามความต้องการของน้องชาย / ซึ่งช่วงที่เจอน้องชายครั้งสุดท้าย เหมือนน้องสั่งเสียว่า ถ้าตัวเองไม่อยู่ ขอให้ช่วยเลี้ยงลูกวัย 10 ขวบให้ด้วย และ ถ้าเป็นอะไรไป ขอให้พากลับบ้าน ซึ่งตนยังได้ถามกลับไปว่า แล้วจะเป็นอะไรไป อยู่ด้วยกันไปนานๆ แบบนี้ก่อน น้องชายก็บอกว่า อาชีพแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังได้โทรศัพท์คุยกัน น้องชายบอกว่า ปีใหม่จะรีบกลับบ้าน จะไปกินข้าวกับที่บ้าน แต่ก็ไม่คิดว่า นั่นจะเป็นเหมือนคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย



สำหรับพันจ่าเอกสมเกียรติ ปัจจุบันอายุ 45 ปี ตอนช่วยเหลือจากทะเล พันจ่าเอกสมเกียติยังมีสัญญาณชีพอยู่ แต่เนื่องจากร่างกายอ่อนแรง เพราะอยู่ในทะเลนาน และขาดน้ำ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตอนแรกมีการแจ้งชื่อ เป็นพันจ่าเอกจีรวัฒน์ เจริญศิลป์ แต่หลังจากได้ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลกับญาติ จึงมีการยืนยันว่า เป็นพันจ่าเอกสมเกียรติ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-U2tRUXzI0Y

คุณอาจสนใจ

Related News