สังคม
'หมอมนูญ' เผยผลวิจัย 'ฟาวิพิราเวียร์' เท่ากับ 'ยาหลอก' ไม่ช่วยลดป่วยโควิด ควรหยุดใช้
โดย panwilai_c
9 ก.ย. 2565
129 views
หมอมนูญ เผยผลศึกษาวิจัย "ยาฟาวิพิราเวียร์" ไม่ช่วยลดอาการรุนแรงผู้ป่วยโควิด-19 แถมมีกรดยูริกสูงขึ้น ชี้ ถึงเวลาคนไทย ควรหยุดใช้ยาฟาวิพิราเวียร์รักษาอาการโควิดได้แล้ว
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงผลศึกษาวิจัยยาฟาวิพิราเวียร์ มีข้อความว่า
"เราทราบจากสื่อต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ผลการศึกษาแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมเปรียบเทียบยาฟาวิพิราเวียร์กับยาหลอกที่ทำในประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และบราซิลสร้างความผิดหวังให้กับบริษัทยาของญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ยาตัวนี้ พร้อมโพสต์ภาพประกอบ
ในที่สุดผลงานวิจัยนี้เพิ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร Clinical Infectious Diseases เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 การศึกษาทำในช่วงพฤศจิกายน 2563-ตุลาคม 2564 เป็นการศึกษาขนาดใหญ่ในคนติดเชื้อไวรัสโควิด 1187 ราย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป(ชาวอเมริกัน 963 คน เม็กซิกัน 163 คน บราซิล 65 คน โดยให้ยาภายใน 5 วันหลังเริ่มมีอาการ ให้ยาทั้งหมด 10 วัน 599 คนรับยาฟาวิพิราเวียร์ 588 คนรับยาหลอก
ผลการศึกษาพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่แตกต่างจากยาหลอก ไม่ช่วยทำให้อาการของโรคโควิดดีขึ้น ไม่ลดความรุนแรงของโรค ไม่ลดการป่วยหนักเข้านอนในโรงพยาบาล ไม่ลดจำนวนไวรัสในร่างกาย แต่คนที่กินยาฟาวิพิราเวียร์ มีกรดยูริกสูงขึ้นถึง 19.9% เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก 2.8%ในการศึกษานี้พูดถึงประเทศที่ยังใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ มีประเทศรัสเซีย อินโดนีเซีย ดูไบ และประเทศไทยรวมอยู่ด้วย บทสรุปของการศึกษานี้ ไม่ควรนำยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้ในการรักษาโรคโควิด-19
ถึงเวลาที่ประเทศไทย ควรหยุดใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาโรคโควิด-19 ยาโมลนูพิราเวียร์ปัจจุบันราคาไม่แพงกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ประเทศเพื่อนบ้านของเราเลิกใช้ยาฟาวิพิราเวียร์นานแล้ว และเข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์และแพ็กซ์โลวิดซึ่งมีหลักฐานพิสูจน์ลดความรุนแรงของโรค ลดการเข้านอนในโรงพยาบาล องค์การเภสัชกรรมควรเลิกผลิต นำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์ และไม่ควรส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ร้านขายยาและโรงพยาบาลอีกต่อไป"
ซึ่งโพสต์นี้มีคนแชร์และแสดงความเห็นกันจำนวนมาก
ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/o1RYBm-H2Vk