เลขาฯรมว.ยธ. ยัน 'พิ้งกี้' ยินดีตัดผม ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น 'บุ๋ม ปนัดดา' ชี้ข่าวถูกบิดเยอะ วอนอย่าเพิ่งตัดสิน

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยันพิงกี้ ยังไม่ได้ตัดผมพิงกี้ หลังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว 14 วัน แต่พิงกี้ก็ไม่ติดขัดที่จะตัดผม โดยตอนนี้ใช้ชีวิตเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป และอยู่แดนแรกรับแล้ว



ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังจากที่นางสาวสาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ผู้ต้องหาในคดีโฟเร็กซ์ 3 ดี ถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมกับคุณแม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ผ่านไป 14 วันแล้วว่า ขณะนี้พิงกี้ได้ออกจากห้องกักโรค และเข้าไปอยู่แดนแรกรับแล้ว



โดยพิงกี้มีร่างกายแข็งแรง มีกำลังใจดี กินข้าวได้ และ ใช้ชีวิตได้ตามระเบียบของเรือนจำ และยังเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในเรือนจำและทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดผมพิงกี้ เนื่องจากระเบียบของเรือนจำไม่ได้เคร่งครัด



แต่ระเบียบเรื่องนี้ไว้เพื่อดูแลเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย ซึ่งพิงกี้ก็ยินดีที่จะให้ตัดผมตามระเบียบ ซึ่งผู้ต้องขังหญิงส่วนใหญ่ก็มักจะตัดผมเพื่อความสะอาด และในเรือนจำก็ยังมีร้านทำผม เสียค่าใช้จ่ายคนละ 40 บาท ซึ่งแฟนคลับของพิงกี้ไม่ต้องเป็นห่วง



นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ยังพูดถึงการดำเนินคดีกับ ดีเจแมน และใบเตย ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดคดีโฟเร็กซ์ 3 ดี ซึ่งทั้งดีเจแมนและใบเตย ถือเป็นบุคคลกลุ่มที่ 3 ซึ่งมีจำนวน 16 คน ที่อัยการเสนอให้มีการแจ้งข้อหาว่า วันที่ 7 กันยายนนี้ จะประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อสรุปว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มที่ 3 จะมีใครที่จะต้องถูกดำเนินคดีบ้าง



โดยหลังจากนั้นวันที่ 10 กันยายน จะมีการทยอยออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนจะเป็นมีใครที่เข้าข่ายความผิดจะต้องรอดูพยานหลักฐานซึ่งจะสรุปภายหลังการประชุม



ยืนยันว่าหากพยานหลักฐานไปถึงใครและใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี โดยหากทั้งดีเจแมน และ ใบเตย หากยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ขอให้มาสู้คดีตามกฎหมาย



บุ๋ม ปนัดดา เผยพิ้งกี้ สาวิกา ฝากข้อความจากบุคคลที่ได้เข้าเยี่ยม วอนสังคมอย่าพึ่งรีบตัดสิน // พร้อมแต่งตั้งทนายความแล้ว และยืนยันไม่มีอภิสิทธิ์เหนือบุคคลอื่น



ทีมข่าวคุณชญตร์สอบถามไปยังคุณบุ๋ม ปนัดดา เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อมาจาก 1 ใน 10 ที่ได้เจอพิ้งกี้ สาวิกา ที่มีชื่ออนุญาตให้เข้าไปเยี่ยม ติดต่อมาที่คุณบุ๋ม ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า หรือเป็นบุคคลที่แอบอ้าง กระทั่งบุคคลคนนั้นส่งเอกสารมาให้ดู และมีข้อความบางอย่างที่มีเฉพาะพิ้งกี้ และตนเองที่รู้ คือเรื่องของน้องแมวที่เลี้ยง ก็เลยมั่นใจว่าเป็นการฝากข้อความมาที่ตนจริงๆโดยสิ่งที่คุณบุ๋มมาสื่อสารไม่มีการเพิ่มเติม ไม่บวกและลบ และได้ถามไถ่ความเป็นห่วง ในฐานะคนเคยร่วมงานกัน



โดยประเด็นแรกที่พิ้งกี้ฝากมาคือ มีเพียงบางสื่อ มีการลงข่าวที่เหมือนตัดสินว่าเขาผิดไปแล้ว นี่คือสิ่งที่ไม่สบายใจ จึงขอสังคมอย่าพึ่งรีบตัดสิน อย่าเพิ่งรีบพิพากษาเขาโดยสื่อ



ประเด็นที่ 2 คือเรื่องที่มีคนเมตตาพิ้งกี้เยอะ และมีหลายคนส่งทั้งทนายความ และผู้ใหญ่เข้าไปเจอน้องทั้งวัน ก็มีทำให้น้องเครียดที่มีคนพยามติดต่อเขาเยอะ ว่าจะเอาทนายคนนั้นไหม ทนายคนนี้ไหม และมีการบังคับให้เซ็นชื่อด้วย เป็นต้น เลยทำให้พิ้งกี้รู้สึกเครียด จึงฝากบอกมาว่า ตอนนี้ได้มีการแต่งตั้งทนายครามเรียบร้อยแล้ว และคุณบุ๋มได้เห็นใบแต่งตั้งทนายความดังกล่าวแล้ว และขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ขั้นตอนการตัดสินของศาลท่าน



ส่วนประเด็นสุดท้าย คือ พิ้งกี้กังวล คนจะมองว่ามีอภิสิทธิ์ไปมากกว่าคนอื่นรึเปล่า พิ้งกี้บอกว่า เค้าไม่มีอภิสิทธิ์อะไรมากกว่าคนอื่น ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของทางกรมราชทัณฑ์



เมื่อสอบถามถึงสภาพจิตใจ จากวันแรกที่มีร้องไห้ และตกใจว่าจะต้องเดินทางไปในเรือนจำ ตอนนี้ผ่อนคลายมากขึ้น จิตใจเข้มแข็งดี และมีแฟนคลับที่อยู่ในนั้นคอยให้กำลังใจเยอะ และที่สำคัญน้องก็ยังมีความหวังว่า จะสู้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคุณบุ๋มก็ได้ถามกลับว่า ถ้าศาลพิพากษาว่าผิดจริง จะทำอย่างไร น้องก็บอกว่าผิดก็ยอมรับผิด



ส่วนกรณีที่คุณบุ๋ม เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าจะมีรายชื่อป็นกลุ่มที่ 3 4 5 อีกหรือไม่ ยืนยันว่า อันนี้เป็นข้อมูลจากที่คุณบุ๋มเคยสัมภาษณ์ กับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่ใช่ข้อมูลจากพิ้งกี้ เพราะพิ้งกี้เองก็ไม่ทราบเรื่องนี้



ขณะที่ทีมข่าว ยังได้สอบถามความคืบหน้าไปยังคุณลุกซ์ ชาญวิทย์ ผู้จัดการส่วนตัวของคุณใบเตย และ ดีเจแมน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่หากได้รับหมายเรียก ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/HXnIwjlOozg