หรือจะเป็นแม่? เด็ก 2 ขวบ ถูกอุ้มทำร้ายน่วม ตร.เช็กวงจรปิดไม่พบคนร้าย ชาวบ้านชี้ตรงกัน คาดฝีมือคนในบ้าน

คดีเด็ก 2 ขวบ ถูกอุ้มหายออกจากบ้านไปกลางดึก ก่อนเจอตัวในสภาพถูกทำร้ายจนน่วม ล่าสุดคดียิ่ง งง หนัก ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่ตี 1-ตี 5 ไม่พบคนร้ายอุ้มน้องออกมาจากทางหลังบ้านแต่อย่างใด สอดคล้องกับคำบอกเล่าของพยาน ขณะที่อดีตเจ้าหนี้แม่เด็ก ตั้งข้อสังเกตอาจเป็นฝีมือแม่เอง เนื่องจากมีประวัติติดการพนัน



กรณีเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ถูกคนร้ายปริศนาอุ้มจากที่นอนในบ้านพัก ไปทุบตีทำร้ายจนเนื้อตัวมีรอยแดงช้ำเกือบทั้งตัว ซ้ำยังมีแผลพุพองตามตัวอีกหลายจุดเหมือนกับถูกไฟจี้ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา



ซึ่งแม่ของเด็กได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เคยแจ้งความกับตำรวจแต่คดีไม่คืบ หาตัวคนทำไม่ได้ ต่อมามีการนำตัวนายดุสิต หรือสิต ผู้ต้องสงสัยที่แม่ของเด็กเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุมาสอบสวน เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา น้องถูกนายดุสิตทำร้ายมาแล้ว 1 ครั้ง



ล่าสุด น.ส.สมจิตร แม่น้อง 2 ขวบ ได้มอบคลิปกล้องวงจรปิดให้กับผู้สื่อข่าว อ้างว่าเป็นภาพของนายดุสิต วิ่งออกมาจากบ้านเช่าบริเวณหมู่ 7 ต.หัวเขา โดยเป็นภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 แต่ทางตำรวจยืนยันว่าไม่ใช่นายดุสิต แต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวอุ้มน้องไป เพียงแค่วิ่งผ่านกล้องไปเท่านั้น



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายดุสิต ซึ่งพักอยู่ที่ขนำริมชายทะเล นายดุสิต เปิดเผยว่า ครั้งแรกตนเองถูกใส่ร้ายว่าไปอุ้มเด็กมาทำร้าย ตอนตี 3 ซึ่งในเวลานั้นตนเองกำลังนอนหลับอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้มาคุมตัวไปสอบสวน ตนปฏิเสธไป มาครั้งนี้แม่เด็กมากล่าวหาว่าตนไปอุ้มลูกเขามาทำร้ายเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ตนก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปเช่าบ้านอยู่ที่ไหน



ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนทะเลาะกับแม่เด็ก แต่เป็นการทะเลาะแบบธรรมดา มีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ไม่เคยทำร้ายเด็กเลย ทางแม่เด็กเองจะเอาเรื่องตนให้ได้ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย อยากฝากไปยังแม่เด็กว่า หยุดการกระทำนี้เถอะ สงสารเด็ก พร้อมตั้งข้อสังเกตคนที่ทำร้ายเด็กคือแม่เด็กเองหรือเปล่า ทำอะไรไว้รู้แก่ใจดี ถ้าตนผิดตนยอมรับ แต่เรื่องนี้ตนไม่ผิดก็ไม่ยอมรับ



นอกจากนี้นายดุสิต ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุรอบแรก ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่ น.ส.สมจิตร เคยมาเช่าในช่วงเกิดเหตุการณ์ครั้งแรก



ทีมข่าวยังไปเจอบังยูโซป อดีตเจ้าหนี้แม่น้องสตาร์ ให้ข้อมูลว่า ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว แม่น้องเคยเอารถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินมาจำนำไว้กับตน อ้างว่าเป็นรถของตัวเอง ต้องการใช้เงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ตนเลยช่วยรับจำนำไว้ 1 หมื่นบาท จากนั้นอีกประมาณเดือนกว่าๆ แม่น้องสตาร์ก็มาไถ่ออกไป บอกว่าเจ้าของรถให้นำเงินมาไถ่ หลังจากรู้ข่าวว่าน้องถูกอุ้มไปทำร้าย ก็รู้สึกสงสาร ซึ่งตนเชื่อว่านายดุสิต ไม่ได้เป็นคนทำ แต่แนวโน้มน่าจะเป็นแม่เด็กเอง เพราะรู้มาว่าแม่เด็กติดการพนันด้วย



ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่เวลาตี 1 ถึงตี 5 ไม่พบคนร้ายอุ้มน้องสตาร์ ออกมาจากทางหลังบ้านแต่อย่างใด และพบว่าในคืนเกิดเหตุมีการจัดงานบริเวณหลังบ้าน ชาวบ้านอยู่เฝ้าอุปกรณ์ภายในงานทั้งคืนจนถึงเช้า



จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณสนามฟุตซอล พบกับบังดาดารัตน์ เป็นชาวบ้านที่ทำหน้าที่เฝ้าอุปกรณ์ของสนามฟุตซอล ซึ่งอยู่หลังบ้านของ น.ส.สมจิตร โดยบังดาดารัตน์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่สนามฟุตซอลมีการจัดงาน หลังเสร็จงานเจ้าของอุปกรณ์ให้ตนเฝ้าของ เพราะจะมีงานต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 ส.ค. ตนอยู่เฝ้าทั้งคืนพร้อมกับสุนัขอีก 1 ฝูง ก็ไม่พบเห็นใครอุ้มเด็กออกมาจากทางหลังบ้านเช่าที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ถ้ามีคนเข้ามาภายในบริเวณนี้จริง สุนัขจะวิ่งไปเห่าทันที แต่คืนนั้นเงียบเป็นปกติ

รับชมได้ทางยูทูป :  https://youtu.be/dTDgbllp6k0