พ่อเข้ารับศพ 'วิว' หนุ่มพลเมืองดี เพื่อนพูดเหมือนกันหมด ชอบช่วยเหลือคนอื่นไม่ห่วงตัวเอง

ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ "วิว" พนักงานร้านอาหารบุหลันดั้นเมฆ ที่กระโดดเกาะท้ายรถแท็กซี่ของชายคลั่งไปบนสะพานพระราม 3 แล้ว รถไปชนกับขอบกั้นสะพาน ทำให้เขาตกลงมาเสียชีวิต วันนี้พ่อของเขาเป็นคนเดินทางมารับศพลูกชายด้วยตัวเอง แต่ที่น่าเศร้าเพราะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ได้เจอลูก แต่เป็นวันที่ลูกชายไม่มีลมหายใจแล้ว



นาย ณัฐภาส พิมดี พ่อของ นาย นพดล พิมดี หรือ วิว เดินทางมารับศพลูกชายที่นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช พร้อมเคาะโลงบอกลูกชายว่า ให้ตามไปวัดพร้อมกับพ่อ ซึ่งนี่เป็นครังแรกที่ 2 พ่อลูกได้พบหน้ากัน แต่ลูกชายกลับไม่มีโอกาสได้คุยกับพ่อแล้ว



พ่อของวิว บอกว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่มีโอกาสได้เจอหน้าลูกชาย เพราะตั้งแต่เลิกกับแม่ของวิว ตั้งแต่วิว มีอายุแค่ 4 ขวบ วิวก็ถูกส่งไปอยู่กับปู่และย่าที่จังหวัดร้อยเอ็ด เขาก็ทำงานหาเงินส่งเสียลูกชายมาเพียงลำพัง กระทั่ง วิว อายุได้ 18 ปี ก็เข้ามาทำงานที่กรุงเทพ ไม่ยอมเรียนต่อ ซึ่งตอนนั้นเศรษฐกิจไม่ดี และเขามีครอบครัวใหม่ ทำให้ความสัมพันธ์กับลูกชายแย่ลง สุดท้าย วิว แยกออกมาอยู่คนเดียว และไม่ได้ติดต่อกันอีก กระทั่งเมื่อปี 2560 เพื่อนมาบอกว่าเจอวิว อยู่แถวพระราม 3 เมื่อปี 2555 แต่ที่ไม่ได้มาบอก เพราะวิวสั่งไว้ว่า ห้ามบอกใคร ทำให้เขาไม่ได้ไปเจอลูกชาย เพราะไม่รู้ว่าจะยังอยู่ไหม แม้วันนี้จะเจอกันในวันที่ไม่มีลมหายใจ แต่อยากบอกลูกว่า ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อีกไม่นานพ่อคงได้ไปอยู่ด้วยกัน



ด้านนาย สิงห์โชค พลูผล หรือ ต๊ะ เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของผู้ตายระบุว่า ทุกคนรู้ดีว่าพี่วิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าช่วยได้เขาจะทำทันที ก่อนหน้านี้เคยมีโจรเข้ามาขโมยของที่ร้าน พี่วิวก็เข้าไปต่อสู้เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาเคยเตือนพี่วิวหลายครั้งเรื่องการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่คำนึงถึงตนเอง แต่พี่วิวก็ยังยืนยันที่จะทำต่อไป



ขณะที่นาย ธนพัฒน์ ชัยศิริ หรือคุณเม่น หุ้นส่วนร้านที่ผู้ตายทำงานอยู่ ระบุว่า วิว ทำงานที่ร้านมานานกว่า 13 ปี ทำงานเกือบทุกอย่างในร้าน ณ จุดนี้ไม่มีใครมาแทนที่วิวได้ และทางร้านจะเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้กับวิว ที่วัดด่าน พระราม 3 เป็นเวลา 3 คืน



ขณะที่อาการของ นาย ปาน กรวิรัตน์ อายุ 39 ปี ชายที่คลุ่มคลั่งเข้าไปมีเรื่องในร้านอาหารบุหลันดั้นเมฆ แล้วขโมยแท็กซี่ ทำให้ วิว เสียชีวิต



พลตำรวจตรี บุณยรัสน์ พุกกะเวส นายแพทย์ (สบ7) โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ตอนนี้ย้ายเข้าไปรักษาที่แผนกผู้ป่วยในแล้ว จากเดิมที่ต้องรักษาอยู่ในแผนกฉุกเฉิน ส่วนอาการรวมร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นน่าเป็นห่วง แต่ยังมีอาการหลอนจากสารเสพติด เพราะเสพเกินขนาดไปมาก จนทำให้ค่าเลือดผิดปกติแพทย์ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด



ส่วนการแจ้งข้อหล่าวหา พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง อยู่ระหว่าประสานแพทย์ว่าจะสอบปากคำได้หรือไม่ หากแพทย์มีความเห็นว่ายังต้องรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล แต่สามารถเข้าสอบปากคำได้ จะแจ้งข้อหาในโรงพยาบาลทันที และฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่โรงพยาบาล แต่ถ้าออกจากโรงพยาบาลได้ก็จะคุมตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน. และส่งตัวฝากขังต่อศาลทันที



โดยมี 2 ข้อหาหลักคือ ลักทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนคดียาเสพติด อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเลือดของแพทย์

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/5P06NK7ZxPY