โหดเกิ๊น! แก๊งทวงหนี้ขู่ฆ่า ตัด 'จิ๋ม' ยายวัย 64 ใช้หนี้เงินกู้แทนลูก

ความคืบหน้ากรณียายวัย 64 ถูกแอพเงินกู้โทรทวงหนี้โหด ทั้ง ขู่ฆ่า และตัดของลับ หลังลูกสาวไปกู้เงิน 3,500 บาท แล้วไม่จ่าย  ล่าสุดรองผู้บัญชาการภาค 6 สั่งชุดสืบสวนติดตามคดีแล้ว วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อ

เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นคลิปส่วนหนึ่ง ที่แก๊งเงินกู้ออนไลน์ โทรมาทวงหนี้คุณยายวัย 64 ปี ซึ่งตลอดการสนทนา ปลายสายใช้ถ้อยคำหยาบคาย ถึงขั้นขู่ฆ่า และจะตัดของลับ (จิ๋มของคุณยาย) หากลูกสาวไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ ภายในกำหนดเวลา ถึงแม้คุณยายจะปฏิเสธไม่รู้เรื่อง และพยายามอธิบายแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ฟัง ก่อนจะตัดสายไป

ผู้เสียหาย ชื่อ นางสังเวียน (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เล่าว่า ตนเองได้ถูกโทรข่มขู่จากแก๊งเงินกู้ออนไลน์ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเตุ จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับ ตำรวจ สภ.บ้านแยง พร้อมกับเล่าว่า ขณะที่ตนอยู่ที่บ้านพัก ได้มีคนโทรศัพท์ เข้ามาพร้อมกับพูดว่า ให้ใช้หนี้แทนลูกสาว ซึ่งได้กู้เงินไปเป็นเงิน 3,500 บาท แล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ ซึ่งครบกำหนด 7 วันแล้ว

ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ตอบกลับไปว่า ไม่รู้เรื่องการกู้เงิน ทำให้ปลายสายยิ่งโมโห พร้อมพูดข่มขู่ว่า "เดี๋ยวกูจะฆ่า ถ้าไม่มีเงินมาให้ตัด....(หี)ไปขาย ไปตายซะอีแก่" จากนั้นคุยกันต่ออีก 3-4 นาที โทรศัพท์ก็ตัดสายไป ซึ่งในการสนทนา ตนได้บันทึกเสียงในโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวน


ต่อมา พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำ ลูกสาวยาย ซึ่งเป็นคนไปกู้เงิน ให้การว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ได้โหลดแอปทางเฟซบุ๊ค เพื่อขอกูยืมเงิน 3,500 บาท หลังจากให้ข้อมูล ได้มีเงินโอนเข้ามาในบัญชี 2,100 บาท โดยมีข้อสัญญาว่า ต้องคืนเงินภายใน 7 วัน เป็นเงิน 4,947.25 บาท รวมดอกเบี้ย แต่เมื่อถึงกำหนด ตนไม่มีเงินคืน จึงมีตัวแทนจากแอปฯ โทรมาทวงหนี้กับแม่ พร้อมทั้งข่มขู่ ด่าถ้อยคำหยาบคาย  เบื้องต้นตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์เอาไว้ และรับปากจะสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด


ล่าสุดมีความคืบหน้าทางคดี โดย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ เผยว่า หลังรับเรื่องทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ การสืบสวนจนพบว่า เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เกิดขึ้นในท้องที่ของ สภ.เมืองพิษณุโลก ผู้เสียหายงไปแจ้งความที่เอาไว้ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่โทรมาข่มขู่แล้ว ขณะนี้ทราบชื่อ และที่อยู่ เจ้าของเบอร์โทร และชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารที่โอนเงินมาให้ ผู้กู้แล้ว


โดยพบว่าเบอร์โทรมีการเปิดใช้อยู่ในพื้นที่ทางภาคใต้ แต่จากการจับสัญญาณพบว่า มีการใช้งานอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ออกหมายเรียกเจ้าของเบอร์โทรดังกล่าว และให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งถ้าออกหมายเรียกครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่มา ก็จะออกหมายจับในข้อหาขัดขืนต่อหมายเรียก

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zhZuGLUFOo8