มหาไพรวัลย์สึก สาเหตุดูแลแม่ เคลียร์ปมคาใจ 'ศรีสุวรรณ' เลิกจองเวรฟ้องร้องผู้อื่น

อดีตพระมหาไพรวัลย์ เปิดใจประเด็นลาสิกขา นอกจากต้องการมาดูแลแม่ที่ป่วยมะเร็งแล้ว ยังไม่ขอยอมก้มหัวให้กับผู้ปกครองที่ไม่เคารพ พร้อมเคลียร์ใจศรีสุวรรณครั้งแรก ในทุกปมที่เคยขัดแย้งกัน

โพสต์แรก หลังทำพิธีลาสิกขา หรือ สึกเรียบร้อยแล้ว ของอดีตพระมหาไพรวัลย์ หรือ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร มีข้อความ เป็นภาษาว่าบาลีและแปลเป็นไทย ว่า

"ข้าพเจ้า ขอบอกคนสิกขา  ข้าพเจ้า ขอบอกคืนพระวินัย ข้าพเจ้า ขอบอกคืนปาฏิโมกข์  ขอท่านทั้งหลายจงจำ ข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นคฤหัสถ์"

อดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้ทำพิธีสึกเมื่อเวลา 7 โมงเช้า 7 นาทีที่ผ่านมา โดยทำพิธีสึกกับพระรุ่นพี่ คือ พระมหานภันต์ สันติภัทโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ มีพระมหาสมปอง เข้าร่วมในพิธีด้วย

จากนั้นอดีตพระมหาไพรวัลย์ได้โพสต์ภาพตัวเอง หลังสึก ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเขียนว่า "เริ่ม.." โดยชุดแรกของอดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้สวมเสื้อยืดสีขาวลายแมว 3 ตัว นุ่งโสร่ง สะพายย่าม ยิ้มมุมปากเล็กน้อย (หรือยิ้ม อะรุมเจ๊าะ )

จากนั้นก็ได้ไปทำหน้าที่ลูก ให้กำลังใจแม่ก่อนเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า แม่เตรียมจะผ่าตัดแล้ว อยากจะกอดก็ยังกอดไม่ได้

ทั้งนี้อดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้มาเปิดใจในรายการโหนกระแส เป็นที่แรก  โดยบอกถึงเหตุผลที่สึกในวันนี้ จากเดิมที่จะเป็นวันที่ 4 ธันวาคมว่า ต้องการความสงบ  ประกอบกับแม่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่โรคมะเร็งในวันนี้  และตนเป็นลูกเพียงคนเดียว จึงถือโอกาสสึกเพื่อมาดูแลแม่

อีกเหตุผลที่ตัดสินใจสึก คือไม่อยากก้มหัวให้กับผู้ปกครองที่เราไม่ได้รู้สึกเคารพ  ไม่ได้ที่จะเปิดศึกกับใคร แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพระสงฆ์ เพื่อจะได้พูดในสิ่งต่างๆ แบบตรงไปตรงมา  โดยเฉพาะกับสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลพระสงฆ์

แต่ที่ผ่านมากลับทำหน้าที่อีกอย่างคือรับเรื่องร้องเรียน  ย้ำคิดถูกแล้วที่สึกและจะไม่กลับไปบวชเป็นพระอีก

ทั้งนี้อดีตพระมหาไพรวัลย์  ยังได้พูดถึงนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถึงประเด็นที่นายศรีสุวรรณ โพสต์ระบุว่า เงินที่ได้ในระหว่างบวช ต้องคืนให้วัด  และ สึกแล้วให้ไอ้ทิด ประสพความสำเร็จในเพศ คฤหัสถ์ ให้รอดพ้นจากโอษฐภัย ทั้งปวง

ซึ่งอดีตพระมหาไพรวัลย์ บอกว่าอยากให้นายศรีสุวรรณ  ซึ่งมีอายุมากแล้ว ศึกษาข้อกฎหมายให้ดี  และอยากให้เลิกจองเวรและฟ้องร้องคนอื่น  เพราะวันหนึ่งจะถูกฟ้องกลับ

จากนั้นในรายการได้โฟนอินนายศรีสุวรรณ เพื่อให้ทั้ง 2 คนได้เคลียร์ใจกัน โดยที่นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องโกรธแค้นกับอดีตพระมหาไพรวัลย์ แต่ทำไปเพราะหวังดี และอยากเตือนให้พูดถึงคนอื่นให้เหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นหมิ่นประมาท

ทั้งนี้อดีตพระมหาไพรวัลย์ ยืนยันว่าไม่ได้มีทรัพย์สินถึง 300 ล้านบาท อย่างที่สื่อบางแห่งนำเสนอ แต่ไม่อยากฟ้องร้องเพราะสงสารนักข่าว ส่วนอนาคตหลังจากนี้ จะรับงานรีวิวสินค้า และ งานด้านออนไลน์ ส่วนจะมีแฟนหรือไม่ คงยังตอบไม่ได้

ต่อจากนี้มีความเห็นต่อการลาสิกขาของอดีตพระมหาไพรวัลย์ จากพระผู้ใหญ่ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว

ซึ่งมหาไพรวัลย์นับถือและได้ไปขอคำปรึกษาแนะนำถึงวัดสวนแก้วมาแล้ว - โดยพระพยอม กล่าวรู้สึกเสียดาย ต่อการลาสิกขาของพระมหาไพรวัลย์ สูญเสียผู้ที่จะมาสืบทอดพระพุทธศาสนา ระบุ ปัญหาพระสงฆ์ถูกกดดันบีกคั้นมีมานานแล้ว หากใครกำลังคิด ทำเช่นเดียวกัน ขออย่าได้สนใจหรือไปยึดติด ให้ทำหน้าที่ที่ถนัดเป็นประโยชน์ต่อไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว การลาสิกขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เปรียบได้ดั่งคำโบราณที่เสมือนการปิ้งปลาประชดแมว 

พูดถึงกรณี อดีตพระมหาไพรวัลย์ ก็มีในมุมไปโยงการเมือง หลัง ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ประกาศผ่านสื่อเชิญชวนมาร่วมงานกับพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุพร้อมสอนมวยการเมือง และผลักดันนั่งเป็น ส.ส.ของพรรคหากสนใจ

ต้องบอกว่า รวดเร็วทันกระแสจริงๆ นี่เป็นข้อความที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ยินดีต้อนรับ อดีตพระมหาไพรวัลย์เข้าสู่ทางโลก ถ้าจะให้ชีวิตมีความมัน ทำประโยชน์ได้ มาเป็นทีมรองผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ ว่างๆ พบกัน"

ก่อนที่ ส.ส.มงคลกิตติ์ จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยใช้คำว่า หากน้องทิดไพรวัลย์ สนใจเข้าสู่การเมือง หรือ ลง ส.ส.ของพรรค ตัวเองก็พร้อม สอนวิทยายุทธให้ เพราะพอเข้ามาวงการเมืองใหม่ๆ ก็จะถูกรับน้อง "เดี๋ยวพี่ศรี ซึ่งหมายถึง คุณศรีสุวรรณ จรรยา" ก็รับน้องแล้ว หากมาอยู่กับตนเดี๋ยวจะเคลียร์ให้ *-พร้อมบอกว่า การเป็นนักการเมืองที่ดี ต้องพลิกสถานการณ์ได้ทุกอย่าง และบางเรื่องจะแก้แบบหัวชนฝาไม่ได้

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/VIoDYW4Ocuc