สังคม

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ

โดย kodchaporn_j

9 ก.ค. 2564

4 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์


วันนี้เวลา 08.56 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านรุน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นโรงเรียนลำดับที่ 1027 ของการทรงงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร


ในการนี้พระราชทานพระราชวโรกาส ให้นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ และศิษย์เก่าฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท โดยได้พระราชทานคำแนะนำ ให้หมั่นทบทวน หาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติม โดยเฉพาะในรายวิชาที่ยาก พยายามติดตามบทเรียนให้ทัน จะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น


จากนั้นทอดพระเนตรการจัดการเรียนการสอน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ฉบับที่ 5 เพื่อส่งเสริมผู้เรียน อาทิ ห้องเรียน"หลักสูตรสมเด็จย่า" จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ด้านการแพทย์ การศึกษา และสาธารณสุข เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กิจกรรมสหกรณ์ร้านค้า ปลูกฝังให้รักการออม เข้าใจระบบบัญชี ปลูกฝังความซื่อสัตย์ ให้จดบันทึกการซื้อ-ขายด้วยตนเอง ปีการศึกษา 2563 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การบันทึกบัญชี จากสำนักงานสหกรณ์ จังหวัดสุรินทร์


กิจกรรมฝึกอาชีพ มีวิทยากรจากวิทยาลัยการอาชีพสังขะมาถ่ายทอดความรู้ อาทิ การทำเข็มกลัดเสื้อช่อ "ดอกกันเกรา" จากรังไหม ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จากงานประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ประจำปี 2562 และจัดทำโครงการสร้างทายาทหม่อนไหมในโรงเรียน เพื่ออนุรักษ์และสืบสาน การทอผ้าไหมแบบดั้งเดิม ของจังหวัดสุรินทร์


นอกจากนี้มีสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ จัดอบรมการแปรรูปผลผลิตในชุมชน ให้กับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยนำไปจำหน่ายที่ตลาดในชุมชน และผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ ปลาส้มปลาตะเพียน , น้ำพริกปลาร้า , น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ และน้ำนมข้าวโพด


ส่วนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ทำการปลูกพืชผัก ถั่วเมล็ดแห้ง และเลี้ยงสัตว์ มีผลผลิตเพียงพอ สำหรับประกอบอาหารให้นักเรียน นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งเป็นศูนย์บริการความรู้ และขยายผลสู่ชุมชน ในด้านเกษตร , ด้านสหกรณ์ ส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือน และด้านสุขอนามัย ให้ความรู้การป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐ โอกาสนี้พระราชทานพระราโชวาท เรื่องการดูแลความสะอาดส่วนบุคคลและส่วนรวม จะได้อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน


ต่อมาเวลา 12.56 น. เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามความก้าวหน้า การดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านชำปะโต อำเภอบัวเชด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นโรงเรียนลำดับที่ 1,028 ของการทรงงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถิ่นทุรกันดาร


โอกาสนี้ครูใหญ่กราบบังคมทูลรายงานข้อมูลพื้นฐานของชุมชน ที่ยังประสบปัญหาเส้นทางชำรุด ขณะนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลอาโพน ได้จัดสรรงบประมาณ ทำถนนคอนกรีต และปรับปรุงส่วนต่อขยายให้ดีขึ้น ส่วนผลการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ในพระราชานุเคราะห์ที่กำลังศึกษาอยู่ 11 คน ทรงชื่นชมที่ทุกคนตั้งใจเรียน มีพระราชดำริให้พยายามทบทวนบทเรียน อ่านหนังสือให้มาก สืบค้นความรู้เพิ่มเติม จะได้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพในอนาคต


นอกจากนี้ยังได้ชมรมศิษย์เก่า ที่ปัจจุบันมีสมาชิก 534 คน ซึ่งได้กลับมาช่วยพัฒนาโรงเรียนโดยตลอด ทรงชื่นชมสมาชิกทุกคน ที่ร่วมมือกันพัฒนาโรงเรียน ถ้าใครมีปัญหาอะไรก็แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะได้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ยากลำบาก ก็ขอให้ผ่านไปด้วยดี


ด้านกิจกรรมห้องสมุด มีพระราชดำริให้จัดสรรหนังสือที่หลากหลาย รวมถึงหนังสือแนะนำบทเรียนในแต่ชั้น เพื่อให้นักเรียน รวมถึงศิษย์เก่าได้ศึกษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ ส่วนกิจกรรมปลูกพืชสมุนไพร มีการต่อยอดองค์ความรู้ เรื่องสรรพคุณของพืชสมุนไพร และนำไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมโครงการเกษตร เพื่ออาหารกลางวัน ที่ฝึกอบรมการเลี้ยงสัตว์ ทำประมง และปลูกพืช


ซึ่งได้นำเมล็ดพันธุ์แจกให้กับคนในชุมชน เพื่อขยายผลการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน รวมทั้งได้มีการต่อยอดองค์ความรู้ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร อาทิ การทำมะม่วงกวน , สบู่สมุนไพรจากขมิ้นชัน ซึ่งนักเรียนสามารถนำไปสร้างรายได้ระหว่างเรียน และประกอบอาชีพในอนาคต


ทั้งนี้ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านชำปะโต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 เป็นโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่อยู่ห่างจากชายแดน 10 กิโลเมตร ปัจจุบันเปิดสอนชั้นอนุบาล ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 142 คน นักเรียนส่วนใหญ่มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์ เติบโตสมวัย พบบางคนเป็นโรคโลหิตจาง จึงมีพระราชดำริให้จัดหาอาหารเสริมธาตุเหล็ก เช่น ผักใบเขียว เพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น


โอกาสนี้ทรงชื่นชมที่ทุก ๆ หน่วยงาน ร่วมกันดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ จนประสบผลสำเร็จดี เป็นที่น่าพอใจ

คุณอาจสนใจ