สังคม

ครอบครัวร่ำไห้ ชายวัย 52 ปีถูกสุนัขพิตบูลรุมขย้ำดับคาป่าสักใกล้สวนแตงโม หวั่นคดีไม่คืบ

20 ธ.ค. 2568

291 views

จากกรณีที่เพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้โพสต์เหตุการณ์ ชาย อายุ 52 ปี ถูกสุนัขรุมกัดเสียชีวิตภายในป่าสักใกล้กับสวนแตงโม ในพื้นที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร โดยต่อมาวันทึ่ 19 ธ.ค.68 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวและ สิบเอก ประจักรกฤษ สายทิพย์ ผู้ก่อตั้งเพจกำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้เสียชีวิตชื่อ “นายเพยาว์” อายุ 52 ปี ชาวหมู่ที่ 9 ต.หินดาด อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งครอบครัวได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่ “วัดหนองไก่ฟ้า “หมู่ที่ 9 ต.หินดาด อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร และลงไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุร่วมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต


โดยครอบครัวผู้เสียชีวิตเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.68 เวลา 22.00 น. ที่บริเวณป่าสักใกล้กับสวนแตงโม โดยพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าในลักษณะใช้มือปิดบังบริเวณใบหน้า ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบร่องรอยการล้มลุกคลุกคลานเป็นระยะทางกว่า 10 เมตร ใกล้กับจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตพบกิ่งไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ สภาพผู้เสียชีวิตถูกคมเขี้ยวของสัตว์กัดทั่วบริเวณร่างกาย และมีแผลฉกรรจ์ที่หลังคอ หน้าอก คาดว่าถูกสุนัขขนาดใหญ่รุมกัดจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเจ้าของสุนัขก็มาร่วมพิธีศพที่วัด ซึ่งก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องของการเยียวยาแต่อย่างใด โดยกลัวว่าคดีความจะไม่คืบหน้า และผู้ตายก็เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องดูแลส่งเสียลูก 4 คน และหลาน 2 คน


สอบถาม นางมนต์ทา ภรรยาผู้เสียชีวิต อายุ 57 ปี เล่าว่าในวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้านเนื่องจากไปต่างจังหวัด แต่พยายามติดต่อสามีตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงค่ำไม่สามารถติดต่อได้จึงให้ลูก ๆ ไปหาที่สวนแตงโมที่ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ ต่อมาตนเองได้รับแจ้งจากลูกว่าพบศพสามีนอนตายในป่าสัก จึงรีบกลับมาที่บ้าน ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี ตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริต เป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลลูก ๆ อีก 5 คน หลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร อยากได้รับความเป็นธรรมและการรับผิดชอบจากเจ้าของสุนัข และกังวลว่าเรื่องจะเงียบหายไม่ได้รับความเป็นธรรมอยากให้ตำรวจเร่งดำเนิน พร้อมกับนำเรื่องดังกล่าวร้องมาที่นักข่าวและเพจฯ


สอบถาม น.ส.สุดารัตน์ อายุ 16 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า “ในวันเกิดเหตุตนเองได้รับโทรศัพท์จากน้องชายและแม่จำนวนหลายครั้งสอบถามว่าพ่อกลับบ้านหรือยัง ตนเองจึงตอบกลับแม่และน้อง ๆ ไปว่าพ่อยังไม่ได้กลับบ้าน จึงเอะใจออกติดตามพ่อภายในหมู่บ้านจนค่ำแต่ไม่พบ


ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.จึงได้ตัดสินใจพาพี่ชายอายุ 17 ปี เดินทางไปที่สวนแตงโมที่พ่อทำงานอยู่ พบรถจักรยานยนต์ของพ่อจอดอยู่ และพบว่าโทรศัพท์อยู่หน้าตะกร้ารถ จึงได้จอดรถจักรยานยนต์ของตัวเองเดินตามหาจนทั่วบริเวณดังกล่าว จนได้พบกับร่างของพ่อนอนคว่ำหน้าอยู่ จับตัวพ่อดูพบว่าพ่อตัวแข็งหมดแล้ว จึงได้โทรหาแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ ให้มาดูพ่อ ก่อนที่ญาติจะแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป


ที่ผ่านมาพ่อเป็นเสาหลักของบ้านดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ทำงานส่งลูกเรียนหนังสือ ตนเองรู้สึกเสียใจมากจากการจากไปของพ่อและยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ตอนนี้ตนเองกำลังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนปางศิลาทองพิทยาคม ชั้น ม. 4 ตนเองเกรงว่าจะไม่สามารถเรียนต่อได้เนื่องจากไม่มีพ่อคอยส่งค่าเล่าเรียนอีกแล้ว


สอบถาม นายสันต์ และ น.ส.สมหญิง นายจ้างผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเจ้าของสวนแตงโมและเป็นนายจ้างผู้เสียชีวิตเล่าว่า ได้รู้จักกับผู้ตายมานานแล้วและได้ว่าจ้างให้ดูแลส่วนแตงโมเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนขยัน ไม่เกเร รับผิดชอบงานที่มอบหมายไว้ให้ได้ดี ไว้วางใจได้ เป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชน เพราะว่าเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยเอาเปรียบใครและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ตนเองในฐานะเจ้าของที่ดินยังรู้สึกหวาดกลัวในการเข้าพื้นที่อยู่ เพราะว่าหลังจากเกิดเหตุก็ยังเห็นสุนัขตัวดังกล่าวเดินอยู่ในที่ดินสวนแตงโมของตัวเอง อยากฝากถึงผู้เลี้ยงสุนัขทุกคนให้มีความรับผิดชอบในการเลี้ยงไม่ปล่อยให้มาทำร้ายคนอื่น อยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยไม่ให้เกิดกับใครอีก


โดยล่าสุดความคืบหน้าทางคดีตำรวจ สภ.ปางศิลาทอง หลังจากงานศพแล้วเสร็จจะเรียกครอบครัวผู้เสียชีวิตและเจ้าของหมาเข้ามาสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางครอบครัวมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 20 ธ.ค.68

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ