ทำแผนหนุ่มต่างด้าววิ่งราวทอง สูญกว่า 1 แสนบาท อ้างหาเฝินรักษาแม่ป่วยหนัก แต่ไม่ทันแม่เสียชีวิตก่อน

จากกรณีโจรต่างด้าววิ่งราวสร้อยคอทองคำร้านทองใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้ทองไปมูลค่าแสนกว่าบาท หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี, พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี, พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้ตั้งชุดไล่ล่าติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด โดยใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ระหว่างทำงานที่ร้านขายเครื่องยนต์เก่าแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็น แรงงานชาวไทยใหญ่ (เมียนมา) อายุ 25-30 ปี พร้อมของกลางทองคำ น้ำหนัก 6 สลึง ก่อนนำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.บางพลี


ต่อมา พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี นำทีมชุดสืบสวนลงพื้นที่คุมตัว "นายเอ" (นามสมมุติ) ชาวไทยใหญ่ (เมียนมา) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ ร้านทองจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางการวางกำลังอย่างหนาแน่น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงแล้วเสร็จ


จากการสอบถาม นายเอ (ผู้ต้องหา) ยอมรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง โดยมูลเหตุจูงใจไม่ใช่เพื่อความร่ำรวย แต่เขาอ้างว่า "ต้องการนำเงินไปรักษาแม่ที่กำลังป่วยหนัก" แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะความตั้งใจ (ในทางที่ผิด) ของเขาสูญเปล่า เมื่อเขาได้รับข่าวร้ายว่า "แม่ได้เสียชีวิตลงแล้ว" ก่อนที่เขาจะทันได้ส่งเงินหรือนำเงินไปรักษาท่าน กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เสียทั้งอิสรภาพและเสียคนรักไปพร้อมกัน


ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ได้ฝากข้อความสำคัญเตือนภัยสังคมในช่วงท้ายปี ช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงที่ผู้คนมีความต้องการใช้เงินสูง อาจกระตุ้นให้เกิดมิจฉาชีพหน้าใหม่ หรือการก่อเหตุชิงทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ร้านทองควรเพิ่มมาตรการระมัดระวังเป็นพิเศษ และ "ฝากถึงผู้ที่กำลังคิดจะก่อเหตุ ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ไม่เคยมีใครรอดพ้นกฎหมายหรือหนีการจับกุมของตำรวจไปได้แม้แต่รายเดียว"