สังคม

ทภ.2 สรุปสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยังปะทะหลายจุด “กัมพูชา”พยายามรุกคืบปราสาทตาควาย “ช่องอานม้า” เจอทุ่นระเบิดเพียบ

3 ชั่วโมงที่แล้ว

51 views

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอรายงานสรุปสถานการณ์การรบปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 17 ธันวาคม 2568 ในห้วงเวลา 12.00 น. ของวันนี้ โดยมีเหตุการณ์ที่สำคัญดังนี้


พื้นที่ช่องอานม้า : ฝ่ายเราได้ปฏิบัติการเชิงรุกตามแผน เข้าตีและยึดที่หมายสำคัญได้สำเร็จ จัดกำลังเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณตลาดช่องอานม้าและพื้นที่ใกล้เคียง ผลการปฏิบัติ ตรวจพบทุ่นระเบิด PMN-2 เป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงอันตรายที่กำลังพลต้องเผชิญ  ปัจจุบันฝ่ายเราได้วางลวดหนามและระบบเครื่องกีดขวาง ปรับการวางกำลังเพื่อเสริมความแข็งแรง ณ ที่หมาย และยังคงปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องตามแผนที่กำหนดไว้


พื้นที่ผามออีแดง – ห้วยตามาเรีย : มีการปะทะกันเป็นระยะ ทั้งด้วยปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด รถถัง และโดรนทิ้งระเบิด ฝ่ายเราตรวจพบรถส่งกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่หลายคัน จึงใช้อาวุธยิงสนับสนุน ทั้งเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ ยิงทำลายเป้าหมายได้ตามสถานการณ์


พื้นที่ช่องจอม – ช่องเปรอ – ช่องระยี : ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงเข้ามาตกในพื้นที่ กำลังพลฝ่ายเราปลอดภัย และได้ใช้ปืนใหญ่ตอบโต้ตามเหตุการณ์


พื้นที่คนา : ฝ่ายเราสามารถยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้โดรนบินตรวจการณ์ และใช้ปืนใหญ่ รวมถึงจรวด BM-21 ยิงกดดันแนวการวางกำลังของเราเป็นระยะ กำลังพลฝ่ายเราปลอดภัย


พื้นที่ช่องสายตะกู : ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังตลอดแนว จากผลการปะทะทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารที่ใช้เป็นที่ตั้งทางการทหาร คลังเก็บโดรนทิ้งระเบิดและแหล่งสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของพื้นที่ชายแดน


พื้นที่ตาควาย - เนิน 350 : ได้เกิดการปะทะกันในบริเวณหน้าปราสาทตาควายจากความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายเราได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ และใช้กำลังที่เหมาะสมเพื่อยับยั้งและควบคุมสถานการณ์ โดยมีการยิงสนับสนุนเพื่อรักษาพื้นที่ ควบคุมเส้นทาง และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้การปฏิบัติการยังคงดำเนินอยู่ภายใต้การอำนวยการและการควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความมั่นคงของพื้นที่และความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ

.
กองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และ พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และความกล้าหาญ


กองทัพภาคที่ 2 จะให้การดูแลสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและประชาชนในการติดตามข้อมูลจากแหล่งทางการ เนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ