ครูหนุ่มอยากโก้ เช่าชุดตำรวจใส่หวังเซอร์ไพรส์แฟนวันรับปริญญา เจอข้อหาแต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานร้านจำหน่ายเครื่องแบบข้าราชการ ในเขตเมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ย. มีชายคนหนึ่งเข้ามาเช่าชุดเครื่องแบบตำรวจ ยศพันตำรวจเอก พร้อมสแกนชำระเงิน จำนวน 12,000 บาท แต่เงินไม่เข้า และใส่ชุดตำรวจออกจากร้าน

ภายหลังแจ้งความ ผู้ดูแลร้านได้พยายามติดต่อชายคนดังกล่าว แจ้งว่าเงินค่าเช่าชุดไม่เข้า และขอให้รีบมาชำระ หากยังไม่จ่ายจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาในช่วงค่ำ ชายคนดังกล่าวได้กลับมาแสดงตัวและขอชดใช้ค่าชุด จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “แต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน”

น.ส.ปูเปรี้ยว (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี พนักงานร้าน เล่าว่า ชายคนดังกล่าวเข้ามาในร้าน สอบถามหาชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจ ตนจึงถามว่า ต้องการชุดสายตรวจหรือชุดปฏิบัติการ ชายคนดังกล่าวตอบว่า “ชุดปฏิบัติการ” โดยระบุว่ายศพันตำรวจเอก และเร่งให้ร้านจัดให้โดยด่วน อ้างว่ากำลังจะนำไปใส่ในงานรับปริญญาของแฟนสาว เมื่อจัดชุดให้เรียบร้อย ชายคนดังกล่าวได้เปลี่ยนชุดที่ร้านก่อนออกไป โดยโอนเงินชำระผ่านมือถือ เป็นค่าเช่าชุดจำนวน 12,000 บาท แต่ภายหลังพบว่าเงินไม่เข้าบัญชี ตนจึงพยายามโทรติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะนั้นชายคนดังกล่าวอ้างว่าอยู่ที่ สภ.โนนสะอาด

น.ส.ปูเปรี้ยว กล่าวว่า หากติดตามเงินไม่ได้จริง ๆ ตนต้องรับผิดชอบเอง เพราะยอดเงิน 12,000 บาท เป็นเงินเดือนทั้งเดือน ตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จนกระทั่งชายคนดังกล่าวกลับมาชำระเงินคืน ทางร้านจึงไม่ติดใจดำเนินคดี

ด้าน นายต่าย อายุ 30 ปี ผู้เช่าชุดตำรวจ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นครู รู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าจะเจอคดีแต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน ก่อนหน้านี้ตนมีแรงบันดาลใจอยากเป็นตำรวจ เคยไปสอบแล้วไม่ติด จึงมาเป็นครูเอกชน และในวันรับปริญญาของแฟน เกิดอารมณ์ชั่ววูบ อยากแต่งเครื่องแบบตำรวจเพื่อไปเซอร์ไพรส์แฟนสาว เพราะในงานรับปริญญา เห็นคนอื่นใส่เครื่องแบบตำรวจมารับแฟนหลายคน จึงคิดว่าทำบ้างน่าจะดี แค่อยากเซอร์ไพรส์และทำคอนเทนต์เล่นๆ เท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่าประชาชนทั่วไปไม่สามารถแต่งเครื่องแบบตำรวจได้ นายต่าย ตอบว่า “ผมเคยเห็นในงานแสดงหมอลำ ในละครก็เห็นเขาใส่ เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา”

ส่วนกรณีที่เงินโอนค่าชุดไม่เข้า นายต่าย ชี้แจงว่า ตอนนั้นคิดว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว แต่ระหว่างจะกลับไปเอาบัตรที่รถ แฟนโทรมาเร่งให้รีบกลับ เพราะโกรธที่หายไปนาน ด้วยความรีบร้อน ตนจึงขับรถออกจากร้านไปโดยไม่ตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากนำชุดไปใส่เซอร์ไพรส์แฟนแล้ว ก็รีบนำชุดมาคืนทางร้าน เพราะพนักงานโทรมาแจ้งว่าจะดำเนินคดีหากไม่คืน สุดท้ายได้พูดคุยตกลงกับร้าน โดยร้านไม่เอาเรื่อง ตนยอมชดใช้ค่าเช่าชุดและค่าเสียหายของทางร้านรวมเป็นเงิน 20,000 บาท

“ผมอยากขอโทษแฟนสาว ขอโทษร้านเช่าชุด และขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่ทำไปเพราะอยากให้แฟนดีใจเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้ได้สติแล้ว เข้าใจว่าการแต่งเครื่องแบบของหน่วยงานใด ๆ หากเราไม่ใช่เจ้าหน้าที่จริง ๆ ถือว่าผิด และไม่ควรทำอย่างยิ่ง”

ขณะที่ น.ส.มด อายุ 28 ปี แฟนสาวของนายต่าย เล่าว่า วันรับปริญญาของตนเอง หลังจากเสร็จพิธีกำลังจะถ่ายรูป แฟนขอตัวออกไปทำธุระโดยไม่บอกว่าไปไหน กระทั่งกลับมาปรากฏตัวในชุดเครื่องแบบตำรวจ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกงงมาก เพราะไม่ทราบว่าแต่งชุดนั้นมาทำไม เพราะรู้อยู่แล้วว่าแฟนไม่ใช่ตำรวจเป็นครูเอกชน และแฟนเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทำเซอร์ไพรส์ เมื่อเห็นเขาใส่เครื่องแบบตำรวจในวันสำคัญเช่นนี้ จึงรู้สึกเสียใจและสับสน ไม่แน่ใจว่าเขาทำเพื่อถ่ายคอนเทนต์ตามที่อ้าง หรือมีเจตนาอื่นกันแน่ แต่อย่างไร ก็ยังจะคบกับแฟนต่อ และให้อภัย แต่ก็ได้ตักเตือนเขาไปแล้ว อย่ามาทำเซอร์ไพรส์แบบนี้ จะเซอร์ไพรส์ทั้งทีดันมาเจอคดีแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่