แม่วอนช่วยเหลือลูกชาย พบนอนเร่ร่อนในกัมพูชา ซ้ำป่วยแต่ถูก รพ.เมินให้การรักษา

หนุ่มเมืองคอนทำงานเป็นเชฟบนเรือ พบเร่ร่อนนอนข้างทางในกัมพูชา ปวดท้องแต่ รพ.ปฏิเสธรักษา เพราะไม่มีเงิน-เอกสาร ครอบครัวร่ำไห้ เชื่อลูกชายถูกหลอก วอนพากลับเมืองไทย

วันที่ 7 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเฟซบุ๊กเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน โพสต์ภาพและข้อความระบุตามหาญาติคนไทยรายหนึ่งชื่อนายเมธาชาญ อายุ 24 ปี ชาวนครศรีธรรมราช สภาพเร่รอนนอนอยู่หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในประเทศกัมพูชา นั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายเมธาชาญ ชายที่ถูกระบุว่าเป็นคนในโพสต์ โดยพบว่าที่บ้านมีพ่อแม่ ญาติ และเพื่อนบ้าน เดินทางมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

นางนาวี อายุ 49 ปี แม่ และนางวรรณา อายุ 68 ปี ย่าของนายเมธาชาญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า เป็นห่วงลูกชาย เมื่อเห็นภาพที่แชร์กันในโซเชียล อย่างไรก็ตามลูกชายจบวิทยาลัยอาชีวะ มีพาสปอร์ต ทำงานเป็นเชฟบนเรือ เดินทางไปกับเรือตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีสัญญาณจ้างครั้งละประมาณ 9 เดือน และรับเงินเดือนค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ปกติไม่ค่อยได้ติดต่อลูกชายบ่อย เพราะเวลาทำงานของลูกชายไม่ตรงกับเวลาประทศไทย แต่ลูกชายจะส่งภาพมาทางแชทเฟซบุ๊กและพูดคุยถามสารทุกข์กันบ้าง ล่าสุดลูกชายไปทำงานเชฟบนเรือได้ประมาณ 1 ปีกว่า และขาดการติดต่อช่องทางแชทเฟซบุ๊ก

นางนาวี กล่าวอีกว่า กระทั่งมีการแชร์ภาพน้องลงโซเชียล ตามหาญาติ ญาติยอมรับว่าตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย เพราะปกติน้องทำงานเป็นเชฟบนเรือ เดินทางไปทั่วโลก ยอมรับว่าตกใจมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย นอนเร่ร่อนในประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามญาติได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ทราบว่า มีคนไทยในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นเครือข่ายศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ไปพบลูกชายป่วยปวดท้อง เร่ร่อนนอนอยู่หน้าอาคารพาณิชย์ ก่อนพาลูกชายไปโรงพยาบาลในประเทศกัมพูชา แต่กลับถูกปฏิเสธการรักษา เพราะลูกชายเป็นคนไทย ไม่มีเงิน ไม่มีเอกสารใด ส่วนสาเหตุญาติตั้งข้อสังเกตว่าลูกชายนอนเร่ร่อนหน้าอาคารพาณิชย์ในประเทศกัมพูชาว่า ลูกชายอาจจะหมดสัญญาจ้างบนเรือ แล้วถูกเพื่อนคนไทยชักชวนไปทำงานเชฟบนเรือล่องมาที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะถูกขโมยหรือบีบบังคับ ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายเอาเงิน ยึดเอกสารประจำตัว พาสปอร์ตไปหมด ลูกชายจึงหนีออกมาโดยไม่มีเงิน ไม่มีเอกสารใด ยอมรับว่ากังวลความปลอดภัยของลูกชาย จึงวิงวอนขอให้ทางรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยเหลือลูกชาย พากลับประเทศไทยโดยเร็ว

ขณะที่นางนาวีได้วิดีโอคอลคุยกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ซึ่งให้ความมั่นใจว่า ตอนนี้ทราบพิกัดที่แน่ชัดของลูกชายแล้ว อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือลูกชายกลับประเทศไทยโดยเร็ว