ผู้เลี้ยงโคนมขอนแก่นจี้นายกฯแก้ปัญหา อ.ส.ค.ค้างจ่ายค่านมดิบ 90 ล้าน นานกว่า 2 เดือน

ผู้เลี้ยงโคนมขอนแก่นจี้นายกฯแก้ปัญหา อ.ส.ค.ค้างจ่ายเงิน 90 ล้าน นานกว่า 2 เดือน อ้างขายนมไม่ได้-ค้างสต๊อกกว่า 2,000 ตัน ลั่นเกษตรกรจะอดตายกันหมดแล้ว

วันที่ 17 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านคำแคน ต.ดงเมืองแอม อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจาก นางปานระพี บัวทอง อายุ 52 ปี รองประธานสหกรณ์โคนม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยน.ส.ลำไพ อุตรชัย และนางอัมพร สมาชิกสหกรณ์โคนม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ค้างจ่ายค่าน้ำนมดิบของสมาชิกที่มีกว่า 300 คน รวมมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท ส่งผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม พร้อมกับเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งเข้ามาแก้ปัญหา เพราะเกษตรกรโคนมทั่วประเทศจะตายกันหมดแล้ว

น.ส.ลำไพ อายุ 54 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม กล่าวว่า ปัจจุบันครอบครัวมีโคนมจำนวน 50 ตัว จากเมื่อก่อนเลี้ยงเป็นร้อยตัว ต้องทยอยขายเรื่อยๆ เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว อันมีสาเหตุหลักมาจาก อ.ส.ค. ค้างจ่ายค่าน้ำนมดิบ  ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

“อยากเรียกร้องให้หน่วยที่เกี่ยวข้องระดับนโนบาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำกับดูแล อ.ส.ค. เข้ามาแก้ปัญหา และถึงเวลาที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องลงมาดูแลแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เพราะปัจจุบันเดือดร้อนทั่วประเทศ หากเพิกเฉยเกรงว่าสหกรณ์ฯจะล้ม ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมในประเทศ” น.ส.ลำไพ กล่าว

น.ส.ลำไพ กล่าวต่อว่า สหกรณ์โคนมผลิตน้ำนมดิบส่งให้ อ.ส.ค.ทุกวัน แต่ทำไม อ.ส.ค.บอกว่าขายไม่ได้  มิหนำซ้ำยังให้สมาชิกช่วยซื้อนมจาก อ.ส.ค.อีกด้วย อีกประเด็นที่สงสัย คือการนำเข้านมผงจากต่างประเทศ เพื่อทดแทนนมในประเทศที่ผลิตไม่เพียงพอ ตนเองก็มีคำถามว่าไม่เพียงพอจริงหรอ นี่เป็นการแทรกแซงการตลาดทำให้นมของเกษตรกรขายไม่ได้หรือไม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ ตอนนี้อยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะให้เราผลิตนมส่งต่อหรือไม่เพราะปัจจุบันปัญหายังคาราคาซัง ถ้าจะให้เลิกผลิตก็บอก ทุกวันนี้ผลิตให้แต่ไม่ได้เงิน ตอนนี้ได้แต่รอว่ารัฐบาลจะเข้ามาแก้ปัญหาให้อย่างไร จะอดตายกันอยู่แล้ว

ขณะที่รองประธานสหกรณ์โคนมน้ำพอง กล่าวว่า ปัจจุบันสหกรณ์โคนมน้ำพอง มีสมาชิก 300 คน จากเดิม 400 กว่าคน และแนวโน้มสมาชิกลดลงเรื่อยๆ เนื่องจาก อ.ส.ค. ค้างจ่ายค่าน้ำนมดิบ โดยปกติ อ.ส.ค.จะจ่ายทุก 15 วัน แต่ปัจจุบันค้างจ่ายนานกว่า 60 วัน ยอดค้างว่า 90 ล้านบาท โดย อ.ส.ค.ให้เหตุผลว่านมขายไม่ได้ ทำให้มีนมค้างสต๊อกกว่า 2,000 ตัน ทำให้จ่ายเงินล่าช้า สหกรณ์ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการนำเงินสำรองกว่า 10 ล้านบาท มาสำรองจ่ายค่าหัวอาหารให้สมาชิก ซึ่งยอมรับว่าเงินสำรองเริ่มร่อยหรอ บางคนก็ต้องกู้ยืมหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมามีการร้องเรียนหลายหน่วยงาน แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ด้านนางอัมพร กล่าวว่า ปัจจุบันเลิกเลี้ยงโคนมแล้ว เนื่องจากสู้ต้นทุนทั้งค่าอาหาร ค่าคนงาน ค่าฟาง อื่นๆ จิปาถะ รวมค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดการฟาร์ม 100,000 บาทต่อเดือน  อีกทั้ง อ.ส.ค.จ่ายเงินไม่ตรงเวลา จึงยอมตัดใจขายเหมายกคอก ขาดทุนโคนมกว่า 50 ตัว ได้เงินเพียง 700,000 บาท ทั้งที่จริงควรจะได้เงินเป็นล้าน แต่ก็ไม่มีทางเลือก หากปล่อยไว้นานกว่านี้อาจจะทำให้ขาดทุนหนักกว่าเดิม ยอมรับว่าเสียดายเพราะตนเองยึดอาชีพนี้มานาน โดยเริ่มเลี้ยงโคนมตั้งแต่ปี 2550 สุดท้ายจึงตัดสินใจล้มเลิกขายหมดเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เพื่อนำเงินไปจ่ายค่างวดรถและค่าใช้จ่ายประจำวัน