หมอประสิทธิ์ ยัน แพทยสภาพิจารณาตามหลักวิชาชีพ รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณ ยึดมติเดิมลงโทษแพทย์ 3 ราย

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ เผยหลังที่ประชุมแพทยสภา ยึดมติเดิมลงโทษแพทย์ 3 ราย ปลอดจากปัจจัยรอบข้าง ขอบคุณแพทย์และคนไทยที่ส่งกำลังใจ วันนี้แพทยสภาได้ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องเพื่อรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณของวิชาชีพ พร้อมชี้แจงเรื่องแชตหลุด “นายทักษิณ” ไม่ใช่ไลน์กลุ่มของแพทยสภา

กรรมการแพทยสภา ยืนยัน มติเดิมลงโทษแพทย์ 3 ราย จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจกรณีที่ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ยืนยันกระบวนการพิจารณาเป็นไปตามหลักวิชาการ กระบวนการโปร่งใสแม้มีความพยายามของคนบางกลุ่ม พยายามให้กรรมการทำในสิ่งที่ขัดต่อหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ ต่อจากนี้เตรียมพิจารณา ตรวจสอบแพทย์รายอื่นเพิ่มเติม ในกรณีให้การรักษานายทักษิณ ชินวัตร

ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา เวลา 15.00 น. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 แถลงภายหลังการประชุมกรรมการแพทยสภา ว่า วันนี้เป็นตัวแทนของกรรมการแพทยสภามาแถลงข่าว กรณีการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องอยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจเกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมในวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่หก / 2568 ประจำเดือนมิถุนายน ในวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีกรรมการ ฯ เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 68 คน จากจำนวนกรรมการแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนน 69 คนได้พิจารณามีมติโดยคะแนนเสียงเกินกว่าสองในสามของคณะกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนน ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบต่อไป

โดยการพิจารณาในวันนี้ได้เปิดให้คณะกรรมการพิจารณาข้อมูลของแพทย์ผู้ถูกร้องเป็นรายบุคคล แต่ละคนมีเสียงโหวต มากกว่า 60 เสียง / ทางคณะกรรมการแพทยสภา ยืนยัน ตามมติเดิม ที่คณะกรรมการแพทยสภา ลงมติไว้ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม คือ ลงโทษแพทย์ที่รักษา ทั้ง 3 คน โดยแพทย์1 ราย เป็นการว่ากล่าวตักเตือน ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน ในกรณีการออกใบส่งตัว

ส่วนแพทย์ 2 ราย พักใบประกอบ วิชาชีพเวชกรรม เป็นเรื่องของการให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง หากแพทย์ทั้ง 3 คน มีข้อโต้แย้งกับมติของแพทยสภา สามารถที่จะไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้. เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณา

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการเห็นว่าจะพิจารณาแพทย์ราย อื่นเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับ การรักษาตัว นาย ทักษิณ ชินวัตร

ศ.นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า กระบวนการประชุมในวันนี้ เป็นไปอย่างโปร่งใส กรรมการฯ ได้รับข้อมูลครบถ้วน ทั้งจากมติเดิม และข้อโต้แย้งของสภานายกพิเศษ พร้อมทั้งเอกสารเปรียบเทียบเหตุผลต่าง ๆ ที่มีการวิเคราะห์ประกอบอย่างรอบด้าน ก่อนจะลงมติ ไม่ได้พิจารณาด้วยซ้ำว่าผู้ป่วยเป็นใคร

สำหรับกรณีแชตกลุ่มไลน์หลุดที่ มีการพูดถึงนายทักษิณ ศ.นพ.ประสิทธิ์ ชี้แจงว่า เป็นแชตจากกลุ่มไลน์ที่ถูกเผยแพร่ ที่ไม่ใช่กลุ่มทางการของแพทยสภา แต่เป็นการสนทนาในกลุ่มแพทย์ทั่วไปที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งในแพทยสภา

การตอบข้อความในแชตดังกล่าว ไม่ได้มีผลกระทบต่อกระบวนการตัดสินของคณะกรรมการแพทยสภา

อย่างไรก็ตามการพิจารณาในครั้งนี้ ไม่มีแรงกดดันและไม่มีข้อกังวลใดๆ กรรมการ แพทยสภา ประกอบ ไป ด้วย แพทย์หลากหลายสถาบันหลักหลายรุ่น รวมถึงยังมีรายชื่อประชาชนกว่า 50,000 คนที่ได้ส่งมาให้กำลังใจแพทยสภา คงไว้ซึ่งจริยธรรมแห่ง วิชาชีพ แต่มีบางกลุ่มใช้กลไกบางอย่าง ที่พยายามที่จะทำให้แพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือขัดต่อจริยธรรม ลักษณะนี้เรียกว่ากดดันหรือข่มขู่ อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณคนไทย ทุก คนที่ได้ส่งกำลังใจ ให้แพทยสภา เพื่อดำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินลงโทษแบบนี้ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้แพทย์รุ่นใหม่กลัวการรักษาคนไข้หรือไม่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือรุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ เข้าใจความถูกต้อง เข้าใจบทบาทและหน้าที่เหมือนกัน เชื่อว่าวันนี้แพทย์หลายคนคงเห็นกรณีนี้เป็นกรณีศึกษา