สังคม

เปิดภาพรถยนต์ สปส.โอนกรรมสิทธิ์ให้วัด คนรับโอนเผย เสียบ่อย-ไม่ใช่รถหรู ด้าน ‘สหัสวัต’ ซัดฟังไม่ขึ้น

โดย petchpawee_k

27 พ.ค. 2568

86 views

เปิดภาพรถยนต์ สปส. โอนกรรมสิทธิ์ให้วัด คนรับโอน เผย เสียบ่อย ไม่ใช่รถหรู ด้าน "สหัสวัต" ซัด ฟังไม่ขึ้นโอนรถเป็นชื่อบุคคล-แฉมีทั่วประเทศสปส.โอนรถให้วัด

จากกรณีที่ สส. สหัสวัส คุ้มคง เปิดข้อมูลเรื่องการซื้อรถและโอนให้วัดก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม  โดยหนึ่งในข้อมูลที่ สส.สหัสวัส เปิดมา มีการโอนกรรมสิทธิ์จาก สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสกลนคร ก่อนโอนกรรมสิทธิ์ให้วัดสระแก้ว และจากนั้นไม่นาน ก็โอนกรรมสิทธิ์ต่อมาให้หญิงรายหนึ่ง

วานนี้ (26 พ.ค.) ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปคุยกับหญิงรายนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎรับโอนกรรมสิทธิ์คันดังกล่าว ซึ่งหญิงรายนี้เป็น ผอ.ของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

โดยเธอ ยืนยันว่า รถคันดังกล่าว ไม่ใช่รถหรู ตามที่มีการนำเสนอ แต่เป็นรถ Ford 4 ประตู ซึ่งเป็นรถที่ปลดประจำการของสำนักงานประกันสังคมแล้ว

เมื่อทางสำนักงานฯ มามอบให้กับทางวัดสระแก้ว ทางวัดได้ใช้รถอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่มีเหตุผลที่ต้องเอามาให้วิทยาลัยดูแล เพราะรถต้องซ่อมบำรุง รถเสียใช้งานไม่ได้ ซึ่งทางวัดสระแก้ว เห็นว่าทางวิทยาลัย ก็อยู่ในชุมชน และอยู่ไม่ไกลจากตัววัด ซึ่งไม่มีงบประมาณที่จะเอารถเข้าศูนย์ จึงนำรถมาให้ทางเด็กนักเรียน และครูอาจารย์ซ่อมดูแล

เมื่อซ่อมเสร็จ ก็ส่งกลับให้กับทางวัด แต่ในช่วงระยะหลัง ก็มีการซ่อมดูแลบ่อยครั้ง ทางหลวงพ่อจึงคุยกับทางคณะกรรมการวัด ว่าเมื่อรถต้องซ่อมบ่อย ก็เลยจึงอยากจะมอบรถให้ทางวิทยาลัยได้ใช้ประโยชน์ และหากทางวัดต้องใช้งาน หรือมีกิจนิมนต์ วัดก็สามารถเอาไปใช้ได้ และปกตินักศึกษา อาจารย์ สถานศึกษาก็อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน จึงต้องใช้รถ ทางวัดจึงอยากมอบตรงนี้ให้อยู่ในความดูแลของวิทยาลัย

ส่วนสาเหตุที่ทางวัดอยากให้โอนกรรมสิทธิ์ให้นั้ย เพราะวิทยาลัยมีคนใช้รถหลายคน ทั้งครูนักเรียนเวลาพาไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งทางวัดก็กังวลว่าหากมีปัญหา หรือมีอุบัติเหตุ แล้วจะมีปัญหากับทางวัดและต้องรับผิดชอบ จึงอยากให้ทางวิทยาลัยมาแบ่งเบาความรับผิดชอบ

พร้อมย้ำว่า รถคันนี้ไม่ได้โอนให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นของส่วนรวม ใช้ในวิทยาลัย และถ้าวัดมีความประสงค์จะรับรถกลับคืนมาอยู่ในความดูแลของวัด ทางวิทยาลัยก็ต้องโอนกรรมสิทธิ์คืนให้วัด

ทางทีมข่าวสอบถามว่า ในเมื่อต้องการโอนให้วิทยาลัยใช้ แต่เพราะเหตุใดชื่อบุคคลที่รับโอนกรรมสิทธิ์จึงเป็นชื่อของหญิงรายนี้ ที่เป็น ผอ.ของวิทยาลัย ทาง ผอ.ชี้แจงว่า เนื่องจากสถานศึกษาเป็นเอกชน การโอนย้ายจะต้องผ่านคณะกรรมการหลายขั้นตอน ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเอง เพราะอาจจะมองว่าตัวเองเป็นตัวแทนของสถานศึกษาอยู่แล้ว ไม่น่ามีอะไร แต่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการโอนรถ เรามั่นใจว่ามีจุดประสงค์ที่ดี และวัดก็มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ซึ่งพอมาเป็นข่าว ก็รู้สึกว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด

พร้อมย้ำว่า รถที่ได้มา เป็นรถสี่ประตู เวลาต่อทะเบียน เปลี่ยนของเหลว หรือการดูแลซ่อมบำรุง ก็จะมีค่าใช้จ่ายเยอะ และล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ก็เพิ่งเอารถไปซ่อม หมดไปประมาณ 19,000 บาท

และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เอารถไปใช้ส่วนตัว มีใช้งานบ้างเวลาไปประชุม หากไม่มีรถ ก็จะใช้รถของหลวงพ่อนี่แหละ  และย้ำว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้ซื้อมา ไม่เกี่ยวกับการฟอกเงิน

ส่วนกรณีที่นามสกุลของตนเอง ไปเหมือนกับผู้อำนวยการท่านหนึ่งของ อบจ. นั้น ทางหญิงรายนี้ ยืนยันว่ร นามสกุลของตนเองนั้น เป็นที่แพร่หลายในจังหวัด และในตำบล ยืนยันว่าเป็นนามสกุลที่มีผู้คนในพื้นที่ใช้กันเยอะ แต่ถามว่ารู้จักกันหรือไม่ก็อาจจะเคยเห็นผ่านๆ

ท้ายสุดอยากบอกว่า ตนเองก็มีความบริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดจะเอารถของทางวัดเอามาใช้ส่วนตัว และวัดให้มาก็มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

ส่วนที่ว่าทำไมทางวัดถึงไปขอรับบริจาครถจากสำนักงานประกันสังคมนั้น ตนเองก็ยังไม่ได้ถาม แต่อาจจะเป็นเพราะว่าทางวัดมองว่าวัดไม่มีรถใช้ เพราะไม่ใช่วัดใหญ่ ในวัดมีพระอยู่ประมาณ 3 รูป

แต่เบื้องต้นก็ได้หารือกับหลวงพ่อที่วัด ท่านก็บอกว่าให้ทางวิทยาลัยทำการเช็คซ่อมรถทำอะไรให้เรียบร้อย และท่านก็อาจจะให้ทางวิทยาลัยโอนรถกลับคืนมาให้กับทางวัด เพราะหากเป็นข่าวประมาณนี้ท่านก็ไม่สบายใจ

ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถามไปที่ผู้อำนวยการของ อบจ. ที่มีนามสกุลเดียวกันก็ยืนยันว่าไม่รู้จักกับหญิงรายนี้ และในพื้นที่ ก็มีคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันเป็นจำนวนมาก ที่ไม่ได้รู้จัก หรือเป็นญาติกัน

ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ระบุ ทราบข้อมูลอยู่แล้วว่า รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถหรู เป็นรถกระบะ แต่หาก สปส. ไม่ใช้แล้วก็สามารถขายเอาเงินมาใช้ได้ ทำไมเลือกบริจาคแล้ว ถูกโอนต่อไปอีกทอดหนึ่ง

ส่วนสิ่งที่ผู้หญิงคนดังกล่าวพูด ฟังไม่ขึ้น จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงโอนรถเป็นชื่อตัวเอง ยิ่งแปลกไปกันใหญ่ ฟังแล้วดูงงมาก

เมื่อถามว่า ผู้หญิงคนนี้นามสกุลเดียวกับผู้บริหาร กองหนึ่ง ของ อบจ.สกลนคร มองอย่างไร สส.เนมบอกว่า ยังไม่ขอพูดเรื่องนี้ ตอนนี้อยู่ในช่วงการรวบรวมหลักฐาน จะยื่นไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่บอกได้คร่าวๆ คือ การบริจาครถยนต์ให้วัดของสปส.เกิดขึ้นทั่วประเทศ ไม่ได้เกิดที่เดียว มีข้อน่าสงสัยเต็มไปหมด ย้ำว่าอยากขอเรียกร้องให้สปส.เปิดข้อมูลย้อนหลัง เพราะ มั่นใจว่ามีมากกว่าคันเดียว


https://youtu.be/0Y9mKFHQsXU

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สหัสวัต คุ้มคง ,ประกันสังคม

คุณอาจสนใจ

Related News