สังคม

แพทยสภาลงดาบ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ชี้ไม่มีหลักฐานป่วยวิกฤต

โดย nicharee_m

8 พ.ค. 2568

903 views

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ / ว่ากล่าวตักเตือน 1 / พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มากมากมาก”

เมื่อเวลา 15.00 น. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการ เป็นตัวแทนแถลงผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งมีการนำเสนอผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ กรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

หลังประชุมที่ชั้น 14 อาคารมหิตลาธิเบศร โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 ประจำเดือนพฤษภาคม มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ซึ่งเป็นเรื่องที่ความสนใจของประชาชน ในกรณีกล่าวโทษแพทย์ทางสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจผิดจริยธรรมและวิชาชีพเวชกรรม

ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน1 ท่าน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการพักใช้ใบประกอบวิชาชีพ2 ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง

โดยเสร็จจากการประชุมวันนี้ ก็จะเสนอมติต่อสภานายกพิเศษ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน / การดำเนินการทั้งหลาย จะต้องรอความเห็นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก่อย

แพทย์ 1 ท่าน ที่เราว่ากล่าวตักเตือน เพราะความผิดอันนั้นไม่ได้รุนแรงมากนัก คือการประกอบวิชาชีพไม่ได้มาตรฐาน คือการออกใบส่งตัว

แต่ว่าอีก 2 ท่าน ที่ถูกพักใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม เป็นเรื่องของการให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

นักข่าวถามว่า ที่ไม่ตรงความเป็นจริงคือเรื่องอะไร คุณหมอประสิทธิ์ บอกว่า ขณะนี้ข้อมูลที่เราได้รับ ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น ซึ่งอาจารย์หมอให้ให้เหตุผลได้เท่านี้ส่วนการพักใช้ใบประกอบวิชาชีพ ถือเป็นการลงโทษรุนแรงกับแพทย์ทุกท่านอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าแบบนี้ จะเป็นการบ่งชี้ว่าป่วยไม่จริงได้หรือไม่นั้น คุณหมอประสิทธิ์ เลยบอกว่า ด้วยข้อมูลหลักฐานที่ได้รับ ไม่มีเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตตามที่ได้แถลงข่าว วันนี้ทำไมเราไม่สามารถบอกได้ว่าพักใบเท่าไหร่ เพราะการพักใช้งานนานเท่าไหร่ จะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีก่อน โดยขั้นตอนมีทั้งหมดเจ็ดขั้นตอน ขั้นตอนที่เจ็ดต้องส่งมติแพทย์สภาให้รัฐมนตรี ถ้ารัฐมนตรีเห็นชอบก็ไปตามนั้นเลย แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็จะกลับมาที่แพทยสภาอีกหนึ่งครั้ง จนได้ข้อสรุป ซึ่งตอนนั้น จะมีการแถลงข่าวให้ทราบว่าจะมีการพักใช้ระยะนานเท่าไหร่

ทั้งนี้ ย้ำว่า แพทยสภายึดความถูกต้อง ยึดหลักฐานต่างๆ เราไม่ได้อิงกับปัจจัยภายนอก ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเป็นใคร ไม่งั้นอีกหน่อยเราจะมีประเด็น เพราะฉะนั้นข้อมูลที่มีแบบนี้ เราจะสรุปแบบนี้ แล้วก็ตอบคำถามให้แล้ว เรามีมติอย่างไรมันยังไม่สิ้นสุด คำสั่งยังไม่ออก ออกไม่ได้จนกว่ารัฐมนตรีจะเห็นชอบ

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ากระบวนการในครั้งนี้จะเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ คุณหมอประสิทธิ์บอกว่าอย่าไปคิดแบบนั้น คิดว่าแพทยสภามีศักดิ์ศรี ศักดิ์ทุกคนมีศักดิ์และสีของตน การที่จะดำเนินการในการที่จะดำเนินการในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมให้กับสังคม

ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่าในคณะกรรมการที่มีการลงมติในวันนี้ประกอบด้วยแพทย์ท่านใดบ้าง ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า มีแพทย์หลายคน ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมแพทยสภาวันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ใช่หรือไม่ แต่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ ไมมตอบ กระทั่งเดินเข้าลิฟต์ ก็กล่าวว่าเอาเป็นว่า “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก” จากนั้นขึ้นลิฟต์เพื่อกลับเข้าห้องประชุมต่อทันที

แหล่งข่าวในที่ประชุม ระบุว่า การประชุมวันนี้ถือว่าเสร็จสิ้นเร็วกว่าการประชุมตามปกติเพราะมีการหารือในวาระเดียว ส่วนบรรยากาศโดยรวมทุกคนมีความเห็นที่เห็นด้วยและเห็นต่างกันจึงมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงมติ


คุณอาจสนใจ

Related News