สังคม

ผอ.รพ.เมาแล้วขับชน 2 ช่างภาพเจ็บ ลาออกจากราชการแล้ว แจงไม่เป่าแอลกอฮอล์ทันที เพราะอยากเจรจาก่อน

โดย petchpawee_k

2 พ.ค. 2568

657 views

ผอ.รพ. หนองบัวแดง ขอตัดสินใจลาออกจากราชการทันที ต่อสู้คดีเมาแล้วขับชน 2 ช่างภาพช่องดัง หลังเจรจาค่าเสียหายไม่ลงตัว บอกตั้งใจเลือก รพ.หนองบัวแดง เป็นโรงพยาบาลสุดท้ายในการเกษียณในอีก 1 ปี

ความคืบหน้ากรณีนายแพทย์ พุทธา สมัดไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เมาแล้วขับรถฟอร์จูนเนอร์ติดสติ๊กเกอร์ “กระทรวงสาธารณสุข”  พุ่งชนร้านอาหารและคนที่เดินอยู่ริมทางหน้าร้านอาหาร  ในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นายเอสผู้ช่วยช่างภาพช่องอมรินทร์ทีวี  และนายทศวรรษ ช่างภาพไทยรัฐทีวี  ส่วนทรัพย์สินของร้านอาหารได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 22.16 น.  


โดยหลังเกิดเหตุ นายแพทย์พุทธา ไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ทันที แต่พยายามดื่มน้ำเปล่าและนมเปรี้ยวที่เพื่อนและญาตินำมาให้  โดยนั่งดื่มนมเปรี้ยวบริเวณจุดเกิดเหตุ 1 ขวด, ดื่มน้ำเปล่าครึ่งขวดที่โรงพัก และดื่มนมเปรี้ยวตอนเข้าห้องน้ำที่โรงพักอีกครึ่งขวด  กระทั่งเวลา 00.30 น.( 1 พ.ค.68)  ตำรวจจึงเอาเครื่องเป่าแอลกอฮอล์มาให้เป่า แต่มีอุปสรรคที่เครื่องเป่าใช้งานไม่ได้ ต้องนำไปเอาเครื่องจากป้อมตำรวจที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มาเปลี่ยน  จนเวลาประมาณตีหนึ่ง จึงเอาเครื่องมาเป่าครั้งแรก มีปริมาณแอลกอฮอล์ 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  ปรากฎว่า  เครื่องเป่าตั้งวันเวลาไม่ตรงกับวันจริง (เครื่องขึ้นวัน 28 มี.ค.68) เลยต้องเป่าใหม่อีกครั้ง ในเวลาประมาณ 01.30 น. มีปริมาณแอลกอฮอล์ 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่วันที่และเวลาที่เครื่องก็ยังไม่ตรง แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ไม่มีผล เพราะปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งตัวผู้ก่อเหตุก็ยอมรับว่า ดื่มมาจริง 


ล่าสุด ช่วงบ่ายวานนี้ (1 พ.ค.68)  พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ  เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยชดใช้ความเสียหาย ระหว่างนายแพทย์พุทธา กับนายทศวรรษ ช่างภาพไทยรัฐทีวี ตามที่นายแพทย์พุทธา บอกว่า จะแสดงความรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้  โดยเบื้องต้น ผู้เสียหายรายนี้ เรียกร้องค่าทำขวัญและค่ารักษาพยาบาล  3 แสนบาท ขณะที่นายแพทย์พุทธา ปฏิเสธยอดเงินดังกล่าว ทำให้ยังเจรจากันไม่ได้ ทางตำรวจจึงต้องยุติการเจรจาครั้งนี้ไว้ก่อน และให้เลื่อนการไกล่เกลี่ยออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ค.68 เนื่องจากต้องรอให้ นายเอส ผู้ช่วยช่างภาพอมรินทร์ทีวี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย รักษาตัวให้หายดีก่อน และรอผลจากใบรับรองแพทย์ ว่าบาดเจ็บขั้นไหน จึงเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยพร้อมกันใหม่อีกครั้ง


ส่วนผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของ ผอ.รพ.นั้น จากการเป่า 2 ครั้งได้ผลไม่เท่ากัน อีกทั้งเครื่องตรวจมีปัญหา วันและเวลาไม่ตรงกับวันจริง ซึ่งอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ทางพนักงานสอบสวน นำตัว ผอ.ไปเจาะเลือดตรวจอย่างละเอียด ที่สถาบันการแพทย์จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะมีเอกสารรับรองอย่างเป็นทางการ คาดว่าประมาณ 7 วันจะรู้ผล เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี 

ขณะที่วานนี้  (1 พ.ค.68) นายแพทย์พุทธา ได้ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบ โดยอีก 1 ปี ตนเองก็จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งเคยตั้งใจว่า จะเลือกโรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งนี้ เป็นโรงโรงพยาบาลสุดท้ายในชีวิตราชการ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ก็ขอลาออกจากราชการทันที เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและขอต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

----------------------------------

“สมศักดิ์”จ่อฟันเอาผิดทั้งวินัยและอาญา ผอ.รพ.ที่ชัยภูมิเมาแล้วขับชนทีมข่าว ชี้เป็นความผิดร้ายแรง จะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง พร้อมสั่งดูแลผู้บาดเจ็บเต็มที่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เมาแล้วขับรถชนทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องดัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุว่า ได้โทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวอยู่ ให้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องคดีความเมาแล้วขับ ก็ได้สั่งการไปว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย โดยไม่ย่อหย่อน


ส่วนเรื่องการสอบวินัยผู้อำนวยการคนดังกล่าว ที่เป็นถึงระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาล แต่ไม่ยอมให้ตำรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทันทีหลังเกิดเหตุ  นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องสอบวินัย จะดำเนินการอย่างเต็มที่  แต่ประเด็นสำคัญคือ จะต้องให้ความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บ


เมื่อถามถึงบทลงโทษ เพราะความผิดชัดเจนและไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจแอลกอฮอล์ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องลงโทษ และกรณีที่ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลนำรถของราชการมาใช้นอกเวลาจนเกิดอุบัติเหตุ  ก็ต้องดูทุกกรณี  อะไรที่ผิดก็ต้องลงโทษ  


ส่วนกรณีคนสนิทของผู้อำนวยการคนดังกล่าว ข่มขู่ทีมข่าวถึงในห้องน้ำ ถือว่ามีความผิดร้ายแรงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็ร้ายแรง ตอนนี้เขาโชคไม่ดีแล้ว ก็ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ขอให้สบายใจได้ จะทำให้กรณีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เบื้องต้น ตนยังไม่ได้คุยกับใคร โดยเฉพาะผู้อำนวยการที่ก่อเหตุ เพียงแต่กำชับเจ้าหน้าที่ให้ไปดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน


ส่วนเรื่องจะต้องให้ผู้อำนวยการคนดังกล่าวออกจากราชการไปก่อนหรือไม่  นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/FOijed4L5-Y



คุณอาจสนใจ

Related News