“รักชนก” เดือด! ร่ายยาวจัดหนักปมจัดซื้อจัดจ้างภายในตึก สตง. ซัดฝั่งรัฐบาลกริบ

“รักชนก” เดือด! ร่ายยาวจัดหนักปมจัดซื้อจัดจ้างภายในตึก สตง. ซัดฝั่งรัฐบาลกริบ ไร้คนเทคแอคชัน ถามมีใครออกมาพูดปฏิรูปองค์กรอิสระยัง กลัวเจอตอพวกเดียวกันหรือ ปลุกสังคมควรโกรธ ลั่น เรื่องแบบนี้ควรตรัสรู้ได้ด้วยตัวเองไหม ทีไปไล่บี้หน่วยงานอื่นเอาทุกเม็ด วัดเม็ดพริดยังทำ ย้ำถึงเวลาแล้วต้องซักล้างองค์กรอิสระ

16 เม.ย. 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดซื้อจัดจ้างภายในตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มจากแผ่นดินไหว กว่า 13 นาทีด้วยความอัดอั้นว่า เรื่องนี้พูดยากมาก เพราะ สตง. บอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ ทุกอย่างที่เขาทำถูกต้องตามกฎหมายหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อฝักบัวอันละหมื่น แต่สุดท้ายคนก็ไปขุดมาว่าอันละ 1,700 บาท หรือการซื้อพรมผืนละแสน การทำห้องโรงหนัง 200 ที่นั่ง การทำสตูดิโอถ่ายรูปอัดเสียง ซึ่งเวลาทุกคนฟัง จะตั้งคำถามว่ามันเร่งด่วนขนาดนั้นหรือไม่ หรือมันสอดรับกับภาระหน้าที่ของ สตง.หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการถูกระเบียบแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ

“เวลาที่ สตง.ไปตรวจโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารหรือท้องถิ่นทั่วประเทศ ขนาดวัดพริกก็วัดมาแล้ว หรือวัดเสาไฟ ขนาดเวที พูดง่ายๆ เอาทุกเม็ด แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง ทำไม สตง. ถึงทำให้คนทั้งประเทศตั้งคำถามขนาดนี้ อีกอย่างที่อยากถามกลับไปที่ผู้ว่า สตง.เลย ถ้าเราดู 10 วันแรก ผู้ว่า สตง.ไม่ออกมาพูดแสดงความเห็น หรือแม้กระทั่งแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตเลย ข่าวแรกๆ ที่เราเห็นคือ ผู้ว่า สตง.เป็นเพื่อนกับคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และต่อมาถึงมาทำพิธีทำบุญให้ผู้เสียชีวิต ซึ่ง กทม.ก็เป็นเจ้าภาพอีก เราถึงเพิ่งเห็นหน้าผู้ว่า สตง. และขนาดเห็นหน้าแล้ว ก็ยังไม่ได้ยินอะไรที่บรรเทาความเสียใจ ทุกข์โศก หรือโกรธแค้นจากปากผู้ว่า สตง.เลย” น.ส.รักชนก กล่าว

น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า แน่นอน เราไม่คาดหวังมาตรฐานว่าจะมีการลาออกหรือไม่ เหมือนในประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างน้อยที่สุด เราอยากได้ยินว่าคุณจะปฏิรูปองค์กรของคุณอย่างไร แทนที่จะใช้โอกาสที่ทุกคนเห็นปัญหาหมดแล้ว ปฏิรูปองค์กร ปัดกวาดเช็ดถู ซักล้างองค์กรตัวเองให้ดีขึ้นก้าวหน้าขึ้น เอาคนที่ทุจริตคอร์รัปชันออกไป ปรับปรุงกระบวนการที่ไม่ดี กลับไม่มีสิ่งเหล่านี้ออกมาจากปากผู้ว่า สตง.เลย

“เราคิดว่าสังคมควรจะโกรธนะ นอกจากจะโกรธเรื่องการจัดซื้อของแพงแล้ว เรื่องนี้ก็ควรจะโกรธ เพราะเราไม่ได้ยินอะไรดีๆ จากปากผู้ว่า สตง.เลยหรือ และที่สำคัญที่สุด เรารู้แล้วว่าตึกไม่ได้ถล่มเพราะแผ่นดินไหว มันถล่มเพราะการคอร์รัปชัน แต่แผ่นดินไหวเป็นปัจจัยที่ทำให้เร็วขึ้นเท่านั้น มันถล่มจากการคอร์รัปชันทุกระดับ ตั้งแต่การออกแบบ การประมูล เรารู้กันแล้วว่ามีการใช้นอมินีปลอมลายเซ็น มีการฟันราคาเกิดขึ้น มีการล็อกสเป็คเกิดขึ้น แต่ถามหน่อย ว่าตรงนี้รัฐบาลออกมาเทคแอคชันอะไรแล้วหรือยัง” น.ส.รักชนก กล่าว

น.ส.รักชนก กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า รัฐบาลกล้าพูดถึงการปฏิรูปองค์กรอิสระแล้วหรือยัง ถ้าสังเกตดูดีๆ ยังไม่เห็นใครในรัฐบาล สส.ฝ่ายรัฐบาลออกมาพูดถึงเรื่องการลดคอร์รัปชันหรือการออกมาพูดถึงการใช้งบประมาณแบบไม่ชอบมาพากลนี้เลย เพราะขุดไปแล้วมันจะเจอตอคนในรัฐบาล คนที่อยู่ในฟากฝั่งเดียวกันเองหรือไม่

“อันนี้ตั้งคำถามนะ รัฐบาลไม่เคยพูดถึง เรื่องการปฏิรูปองค์กรอิสระ การลดคอร์รัปชันภาครัฐ หรือทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมันเปิดเผย โปร่งใสมากขึ้น ไม่เคยมีเลย ไม่เคยใช้โอกาสที่ดีอันนี้ในการทำอะไรเลยทั้งสิ้น” น.ส.รักชนก กล่าว

เมื่อถามว่า สตง.เตรียมสร้างตึกใหม่ ขยับไปจากเดิม น.ส.รักชนก กล่าวว่า ถ้าคุณทำประกันแล้ว คุณจะมีเงินเท่าเดิม 2 พันล้านบาทในการสร้างตึกใหม่ ถ้ามั่นใจว่าออกแบบมาดี ไม่มีอะไรผิดพลาดตั้งแต่จัดซื้อจัดจ้าง ทุกอย่างโปร่งใส เป๊ะหมดทุกอย่าง ทำไมถึงมั่นใจว่าจะทำแบบเดิม จะเปลี่ยนแบบทำไม แปลว่าแบบเก่ามีปัญหาถูกหรือไม่ แสดงว่าการใช้งบของคุณมันไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ ใช้งบเกินตัวถูกต้องหรือไม่ ถึงบอกว่าสร้างให้ต่ำลง พื้นที่ใช้สอยน้อยลง เรื่องงบประมาณที่ลดลง

“เฮ้ย แปลว่าอะไร เนี่ย มันสะท้อนว่าของเก่ามีปัญหา มันก็อาจจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่เขายอมลดราคาของที่จะซื้อลง แต่ถามหน่อยว่าประเทศเราต้องปล่อยให้เกิดวิกฤติแบบนี้ขึ้นก่อนหรือ มันควรที่จะตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเองโดยสามัญสำนึกในการใช้งบประมาณภาษี ที่เวลาคุณไปตรวจคนอื่นคุณตรวจอย่างถี่ยิบแล้วไหม” น.ส.รักชนก กล่าว

น.ส.รักชนก ย้ำว่า แน่นอนว่าเรื่องมันไม่ได้เกิดที่สมัยผู้ว่า สตง.คนนี้ แต่ที่เราเรียกร้องคือการปฏิรูปองค์กร และต้องไปถามผู้ว่า สตง.คนเก่าด้วยว่า ปล่อยให้เรื่องเกิดมาแบบนี้ได้อย่างไร

เมื่อถามว่า สตง. ตรวจสอบหน่วยงานอื่น แต่การตรวจสอบ สตง. ต้องดำเนินการอย่างไร น.ส.รักชนก กล่าวว่า วันนี้ฟังคำสัมภาษณ์ผู้ว่า สตง.คนเก่าที่ออกมาพูดว่า สตง. ถูกประชาชนด่าได้ ตรวจสอบได้ แต่ตนเองถามว่ามีใครสามารถจัดการ สตง.ได้จริงๆ จังๆ หรือไม่

“คุณบอกว่าคนที่ตรวจสอบคือกรมบัญชีกลาง แต่ถามว่ากระบวนการตรวจสอบทุกวันนี้ ถ้าตรวจสอบดีจริงมันปล่อยให้ซื้อของขนาดนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้ความไม่คุ้มค่าเกิดขึ้นขนาดนี้ได้อย่างไร แล้วอีกกลไกหนึ่งที่คุณบอกว่าตรวจสอบได้คือยื่น สว. ใช่หรือไม่ แต่ สว.ก็มาจากพวกเดียวกัน แล้วเขาจะยื่นถอดถอนกันเองไหม เขามาจากอำนาจแบบเดียวกัน นึกออกไหม แล้วมันเป็นอำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน” น.ส.รักชนก กล่าว

น.ส.รักชนก ระบุว่า เราต้องมาพูดถึงที่มาขององค์กรอิสระได้แล้วหรือไม่ เพราะถูกแต่งตั้งจาก สว.ที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน และที่สำคัญคือเราต้องพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบจริงจังได้แล้วหรือไม่ เราเห็นมาตลอด ตั้งแต่ สตง. ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ทุกองค์กรทำงานแบบสังคมตั้งข้อสงสัย พูดง่ายๆเลยคือด่าทุกองค์กร แต่ถามว่าประชาชนสามารถทำอะไรได้หรือไม่ ทำไม่ได้เลย คุณไม่ได้มีความรับผิดรับชอบอะไรกับประชาชน

“มันไม่ใช่ว่าคุณโดนด่า แค่นั้นมันไม่พอ ด่าแล้วเขาทำอะไรคุณได้ ทำอะไรกับอำนาจที่คุณมีได้ นี่ต่างหากคือประเด็น ทุกวันนี้สังคมก็ด่า สตง.ทั่วประเทศ แต่ถามว่ามีใครทำอะไร สตง.ได้ไหม ไปเข้าชื่อ 50,000-100,000 คน หรือถึง 1 ล้านคน ทำอะไร สตง.ได้ไหม ทำไม่ได้ สตง. ไม่ต้องรับผิดรับชอบต่อประชาชน คุณเลยไม่ทำอะไรเพื่อตอบสนองกับประชาชน” น.ส.รักชนก กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เกิดข้อครหาเรื่องความคุ้มค่าคล้ายกลับเรื่องประกันสังคม จะมีโอกาสติดตามเหมือนประกันสังคมหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า เรื่องประกันสังคม เดี๋ยวจะเข้า กมธ.ติดตามงบประมาณ สภาฯ สัปดาห์หน้า เราจะติดตามต่อ ซึ่งเรื่องตึก สตง.กับตึกประกันสังคมสะท้อนว่าประเทศไทย จริงๆแล้วไม่ได้จน งบประมาณหายไปเท่าไหร่กับการคอร์รัปชันกัน ส่วนต่างมันเท่าไหร่ ถือเป็นทั้งกระบวนการ งบประมาณที่เป็นงบลงทุน 20-40% ใช้ไปกับการคอร์รัปชัน การยัดใต้โต๊ะ กระบวนการที่รับส่วย

“นี่คืองบประมาณที่หายไปเว้ย จากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่คุณบอกว่าถูกต้องตามกฎหมายและถูกระเบียบทุกอย่าง มันคือ 20-40% นี้เลยเว้ย ของค่าใช้จ่ายในการถูกระเบียบ ถูกต้องตามกฎหมาย” น.ส.รักชนก กล่าว

น.ส.รักชนก มองว่าการแก้ไขปัญหาเป็นรายเคสเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้องไปดูว่ามีอะไรอยู่ในกรมบัญชีกลางหรือไม่ มีอะไรในสำนักงบประมาณหรือเปล่า ที่ทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กระบวนการถ่ายงบประมาณไปซื้อของมันออกมาเป็นแบบนี้ เรามาแก้เป็นเคส มันไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นเราต้องปฏิรูปกระบวนการงบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างอย่างจริงจังได้แล้ว

“พูดตรงๆ พรรคประชาชนพยายามพูดเรื่องใหญ่ๆ แบบนี้มาตลอด แต่มันไม่เซ็กซี่ มันเข้าใจลำบากไง แต่สุดท้ายถ้าเราไม่ทำ มันจะออกมาเป็นแบบนี้ เป็นตึกสกายไนน์ 7 พันล้าน ตึก สตง. 2 พันล้าน เป็นฝักบัวอันละหมื่น พรมผืนละแสน แล้วเป็นอะไรอีกสารพัด” น.ส.รักชนก กล่าว