สังคม

“ไชยชนก” ยกดาราศาสตร์สอนภัยพิบัติกลางสภา ทำประท้วงวุ่น นอกประเด็นสหรัฐฯขึ้นภาษี

โดย chutikan_o

9 เม.ย. 2568

842 views

ประท้วงวุ่น “ไชยชนก” ยกดาราศาสตร์สอนภัยพิบัติกลางสภา เตือนสติรัฐเร่งตระหนักได้แล้ว อวย “อิ๊งค์” แสดงวุฒิภาวะ ผู้นำประเทศตัวจริง เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน นายกฯไม่มีคุณสมบัติคุย “ทรัมป์” เพราะต่อให้เป็นเทวดาก็คุยไม่รู้เรื่อง หลังอภิปรายเสร็จ เดินคอตกออกห้องประชุม ขณะ “สส.ภท.-รักชนก” ให้กำลังใจ


นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย อภิปรายเปิดญัตติด่วนว่า จากข้อมูลที่ศึกษามามีความเป็นไปได้สูงว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีจากใจจริง ที่เราได้มีโอกาสอภิปรายในเรื่องที่เป็นประโยชนของพี่น้องประชาชน เครดิตต้องอยู่ที่นายกฯ คนเดียว วันนี้สำหรับตนเอง นายกฯได้โชว์วุฒิความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง วันนี้สำหรับตนเองคือนายกฯ ของประเทศไทยอย่างแท้จริง สำหรับตนเอง ท่านได้มองถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของประชาชนคนไทยมาก่อนประโยชน์ส่วนตน สำหรับตนเองนายกฯได้ตระหนักถึงข้อมูลที่ตนซึ่งเป็นนักการเมืองตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เข้าไปนำเสนอจากใจด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเป็น 3 เรื่องที่นายกฯแถลง และเป็น 3 เรื่องที่เสนอญัตติในวันนี้


“อยากจะฝากไปถึงนายกฯ ว่าผมให้คำสัญญาว่าจากนี้เป็นต้นไป ผมจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีเพื่อสนับสนุนท่านนายกฯ ด้วยความสุจริตใจ ปราบใดที่ท่านมองเห็นประโยชน์ของประชาชนมาก่อนอย่างนี้ต่อไป ฉะนั้นด้วยความจริงใจ ขอประกาศในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ว่าผม นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโต ของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน และไม่ใช่เฉพาะ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุกๆ พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาและนำเสนอของประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของประเทศ ผมก็จะไม่พิจารณา เพราะสำหรับผมมีเรื่องที่เร่งด่วนอย่างมหาศาล” นายไชยชนกกล่าว


นายไชยชนก กล่าวอีกว่า ส่วนตัวศึกษาหลายเรื่องแม้กระทั่งดาราศาสตร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน จันทรุปราคา สุริยุปราคา มีวันที่วงแหวนดาวสาร์หายไปและกลับมาใหม่ และมีปรากฎการณ์โซลาร์แฟลร์ คือการปะทุของดวงอาทิตย์ จากนั้น 3 วันเกิดแผ่นดินไหวเมียนมา และภูเขาไฟหลายแห่งปะทุ ล่าสุดภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ระเบิด ในขณะที่หลายจังหวัดในประเทศไทยเกิดน้ำท่วม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตนเองต้องขัดความเป็นห่วงของผู้หลักผู้ใหญ่ที่รักและเป็นห่วงนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อนายกฯ เพราะกลัวว่าจะถูกมองเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งหากในอนาคตหากเกิดแผ่นดินไหวต่อไปให้ไม่แรงถึง 7.1 ริกเตอร์ ก็ส่งผลกระทบร้ายแรงเพราะโครงสร้างมันเสียหายหมดแล้ว




จากนั้นนายพิเชษฐ์ ประธานในที่ประชุม เตือนให้นายไชยชนกอภิปรายให้เข้าประเด็นเรื่องภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้นายกรวีณ์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นตอบโต้ว่า เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติเรื่องแผนการรับมือจากภัยพิบัติธรรมชาติ และผลกระทบทางวิกฤตเศรษฐกิจโลก และภัยความมั่นคงจากสถานการณ์โลก ซึ่งต่างจากญัตติด่วนของพรรคอื่น จึงขอให้เพื่อสมาชิกอภิปรายถึงสถานการณ์ภัยพิบัติเพื่อเข้าสู่แผนการรับมือ


ก่อนนายไชยชนกจะอภิปรายถึงสถานการณ์น้ำท่วมน้ำแล้งของประเทศไทย และสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิโลก กล่าวว่า อยากให้สมาชิกทุกคนเช็กข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เพราะตนเองก็ไม่ได้เข้าใจทุกอย่างแต่รู้ว่าสำคัญและส่งผล ซึ่งอยากให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือตั้งกรรมาธิการฯ แต่โชคดีที่ยังมีเวลา ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย เพราะเชื่อว่าทั่วโลกจะประสบปัญหาอย่างตั้งตัวไม่ทัน แม้แผ่นดินไหวไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล แต่ถ้าไม่ตระหนักตั้งแต่วันนี้แล้วเกิดความสูญเสียนั่นจะเป็นความผิดของเรา จึงอยากให้วางเกมการเมือง เลิกนึกถึงตัวเองแล้วคิดถึงประชาชนชาวไทย


จนกระทั่งนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม พรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วงประธานควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ พร้อมถามว่า ถ้าคนที่พูดอยู่เป็น สส.พรรคประชาชน ประธานจะปล่อยให้พูดนานขนาดนี้ และนอกเรื่องญัตติไปนานขนาดนี้หรือไม่ วันนี้เป็นการอภิปรายญัตติเรื่องภาษีไม่ใช่ญัตติเรื่องแผ่นดินไหวเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว


นายพิเชษฐ์ วินิจฉัยว่า ญัตติของนายไชยชนกแตกต่างจากญัตติอื่น ซึ่งกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งความจริงเกือบจะรวมกันไม่ได้ แต่ขอให้นายไชยชนกเข้าประเด็น ทำให้นายสาวรักชนกไม่ยอม ขอให้ประธานวินิจฉัยอีกครั้ง เพื่อชื่อเสียงของผู้อภิปรายและครอบครัวของเขา แต่นายพิเชษฐ์ อนุญาตให้อภิปรายต่อแต่ให้เข้าประเด็น แต่นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ ลุกขึ้นประท้วง น.ส.รักชนก ว่า นายไชยชนกกำลังทำหน้าที่ในการอภิปรายขออย่าพาดพิงไปถึงครอบครัว เพราะเป็นเรื่องที่เสียหาย


ด้านนายไชยชนกบอกว่าตัวเองไม่ถือ และขออภิปรายต่อ รัฐบาลต้องตั้งตัวให้ดีแม้จะไม่พร้อมจะคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ก็ต้องนำเสนอ แต่จะเสนอที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งสิ่งที่ยังขาดไปคือสติ ทุกคนมีเจตนาที่ดี แต่เราเป็นใคร เห็นด้วยกับฝ่ายค้านว่านายกฯ ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะคุยกับทรัมป์ แต่ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีศักยภาพ เพราะจีนก็คุยกับทรัมป์ไม่รู้เรื่อง ยุโรปรวมตัวกันและรัสเซียก็ยังคุยไม่รู้เรื่อง ดังนั้นวันนี้ต่อให้เทวดามาก็คุยกับทรัมป์ ไม่รู้เรื่อง จึงสามารถทรัพยากรอีกเลย และอย่าสิ่งสำคัญคือเวลาของนายกฯ อีกเลย นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของสิ่งที่ทรัมป์จะทำ ยิ่งเวลาผ่านไปจะยิ่งรุนแรงขึ้น แล้วเราเป็นใคร สติ วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะออกมาพูดสิ่งที่ประชาชนอยากได้ยิน แต่ต้องพูดที่ประชาชนต้องได้ยิน เราต้องหยุดและถอยมาหนึ่งก้าว เพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เชื่อว่าประเทศที่ผ่านเรื่องนี้ได้เร็วที่สุดจะกลายเป็นมหาอำนาจ หากทุกคนอ่านออกเกมของทรัมป์ไม่เคยเป็นเกมเศรษฐกิจ เป้าหมายของทรัมป์คือจีน


ภายหลังนายไชยชนก อภิปรายเสร็จ ได้เดินคอตกไปหลังห้องประชุม โดยมีเพื่อน สส. จากพรรคภูมิใจไทย เข้าไปกอด และให้กำลังใจ เช่นเดียวกับนางสาวรักชนกที่เดินเข้าไปพูดคุยด้วย





คุณอาจสนใจ

Related News