มิจฉาชีพมาแบบเรียลไทม์ โทรหาหลังได้หนังสือจากการไฟฟ้า อ้างจะคืนเงินค่าหม้อแปลง ทำสูญ 7 แสน

ไฟฟ้าส่งหนังสือจะดับไฟเพียงข้ามคืน มิจฉาชีพอ้างเป็นการไฟฟ้าโทรหาสาวนักธุรกิจ จะคืนเงินค่าหม้อแปลงให้ พอสแกนคิวอาร์โค้ด ไม่กี่วิดูดเงินในบัญชีไป 7 แสน หิ้วโทรศัพท์คาวิดีโอคอลถึงธนาคารแต่ช่วยไม่ได้

วันที่ 6 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากครอบครัวนักธุรกิจเกษตรรายหนึ่งที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินไปกว่า 700,000 บาท และอยากให้เป็นกรณีศึกษาอีกกรณีหนึ่ง ทั้งที่ระวังตัวมาโดยตลอด ตรวจสอบพบนายจำรัส อายุ 54 ปี พี่ชายของ น.ส.พรพิมล อายุ 42 ปี ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ซึ่ง น.ส.พรพิมล ไม่ได้อยู่บ้าน จึงโทรศัพท์พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

น.ส.พรพิมล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ได้มีเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประโคนชัย ขับรถของการไฟฟ้ามาเอาหนังสือมาให้ถึงบ้าน ในหนังสือระบุว่า ขอดับกระแสไฟฟ้าแรงสูงเพื่อปฏิบัติงานบริเวณบ้านประโคนชัย หมู่ 7 ต.ประโคนชัย เพื่อปรับปรุงระบบจำหน่ายแรงสูง เธอก็อ่านแล้วเก็บหนังสือไว้

พอวันที่ 4 เม.ย.ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแจ้งว่าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประโคนชัย ในวันนี้ซึ่งดับไฟฟ้าจะทำการเปลี่ยนหม้อมิเตอร์ให้ใหม่ไปพร้อมกัน แต่การไฟฟ้าจะคืนค่ามิเตอร์จำนวนเงิน 5,000 บาท ตอนแรกไม่สนใจ เพราะต้องการไปติดต่อกับการไฟฟ้าเอง แต่ปลายสายพยายามพูดคุย

มาเริ่มฟังตอนที่ปลายสายระบุว่าเดือนนี้ใช้ไฟฟ้ามากผิดปกติ จากเดือนก่อน 2,000 กว่า แต่เดือนนี้ทำไมถึงขึ้นไป 4,000 กว่า เธอจึงยอมคุยด้วยเผื่อจะมีแนวทางประหยัดไฟฟ้า จนกระทั่งมาถึงตอนที่จะต้องโทรแบบวิดีโอคอล เพื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อรับเงินคืน

พอดำเนินการไม่กี่วินาที มีข้อความเข้ามาว่าเงินในบัญชีโดนโอนออกไป 700,001 บาท จึงถามปลายสายว่าทำไมเงินหาย ได้รับคำตอบว่าผิดพลาดเดี๋ยวโอนเงินคืนให้ เธอจึงถือโทรศัพท์คุยไปด้วย ขับรถไปธนาคารด้วย เมื่อไปถึงธนาคารปลายสายได้ตัดไป ใช้เวลาจากฟาร์มของเธอมาถึงธนาคาร ระยะทาง 2 กม. ใช้เวลาเดินทางบวกกับติดไฟแดงรวมประมาณ 20 นาที

น.ส.พรพิมล กล่าวอีกว่า จากนั้นได้ขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารอายัดบัญชี แต่ต้องผ่านกระบวนการสอบสวนก่อนเพราะเจ้าหน้าที่ต้องแน่ใจก่อนว่าเราโดนหลอกจริงหรือไม่ ใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที ธนาคารจึงเริ่มตรวจสอบ แต่อายัดยังไม่ได้ เพราะปลายทางบัญชีที่รับโอนเป็นของธนาคารออมสิน ในวันนั้นวิ่งเต้นจนถึง 18.00 น. ไม่มีธนาคารใดแจ้งข้อมูลว่าเงินถูกโอนออกหรือยัง จนกระทั่งตำรวจ สภ.ประโคนชัย อาสาว่ามีเพื่อนทำงานที่ธนาคารออมสิน จึงรู้ว่าเงินได้ถูกโอนไปแล้ว

“ที่ผ่านมาดูข่าวเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาโดยตลอด คิดว่าไม่ถูกหลอกแน่นอน แต่ครั้งนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์แม่นมากรู้ประวัติการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด รู้ว่าจะตัดไฟวันไหนเวลาเท่าไหร่ มาถึงตอนนี้แทบจะไม่อยากฝากเงินกับธนาคาร และอยากให้ธนาคารออกมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย เพราะระบบผิดพลาด ตั้งแต่ไม่ได้สแกนใบหน้าแต่เงินโอนออกครั้งเดียวถึง 700,001 ได้” น.ส.พรพิมล กล่าว