แม่ร่ำไห้เข่าทรุด ห่วงลูกสาว 17 ปี ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม หลัง จนท.แจ้งพบสัญญาณชีพ

ครอบครัวของ นางสาวนัยนา พิมสาร อายุ 17 ปี คนงานที่เป็นช่างไฟ ที่ทำงานในอาคารดังกล่าว ต่างพากันร่ำไห้ด้วยความหวังและกังวลใจ และยืนกอดกันร้องไห้อยู่ริมกำแพง มองไปยังซากปรักหักพังของอาคารด้วยใจจดจ่อ

นางมันญภา อายุ 41 ปี แม่ เล่าว่า เพิ่งทราบข่าวตอน 1 ทุ่ม ว่าอาคารทรุด เพราะไม่ได้ฟังข่าวอยู่ในสวนยาง ไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์ ตอนแรกไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอมารู้ว่าตึกถล่มทับลูกสาวข้างในแม่ก็ไม่มีแรง มาแทบไม่ได้

จากนั้นเช้าวันนี้จึงรีบเดินทางมาจากจังหวัดศรีสะเกษ พอมาถึงและเห็นสภาพอาคารที่พังถล่มลงมา ก็ถึงกับเข่าทรุดด้วยความเป็นห่วงลูกสาว และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

คุณแม่ เล่าว่า ลูกสาวอายุ 17 ปี อาศัยช่วงปิดหน้ายาง ขึ้นมาทำงานทุกปี และพอยังเริ่มกรีดยางได้ก็จะกลับไปกรีดยางพารา ซึ่งครั้งนี้น้องเพิ่งขึ้นมาได้สองสามอาทิตย์ และเพิ่งเข้าหน้างานได้วันแรก มาทำกับแฟน แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น

แม่พยามโทรหาลูกสาวตลอด แต่โทรไม่ติดมันไม่มีสัญญาณ ส่วนตัวลูกเขย หนีออกมาได้ บอกว่าลูกสาวทำงานอยู่ชั้นแปด แล้วตอนที่แผ่นดินไหวลูกวิ่งลงมาถึงชั้นสี่แล้ว ซึ่งแฟนตัดสินใจกระโดดพุ่งไปอีกตึกหนึ่ง แต่ตัวลูกสาวออกมาไม่ทัน ตึกทรุดก่อน

ทั้งนี้ แม่เป็นห่วง เพราะลูกสาวเป็นภูมิแพ้ต้องกินยาขยายหลอดลมประจำ แม่กลัวจะไม่เจอลูก กลัวเป็นอะไรอยู่ข้างใน แล้วช่วยเหลือออกมาไม่ทัน ตอนนี้มานั่งอยู่ใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ และอยากบอกกับลูกว่า ลูกเป็นคนขยัน เป็นคนอดทน ให้รอคนเค้าช่วยออกมา “แม่อยากบอกว่า แม่รออยู่ตรงนี้แม่ไม่ไปไหน จนกว่าจะเห็นน้องออกมา” อยากเห็นลูกแต่ก็ไม่กล้าดู กลัวเป็นอะไร เพราะมีลูกสาวคนเดียว น้องอายุยังน้อยยังไม่ได้ใช้ชีวิตสบายเลย

แม่ยอมรับว่าเห็นสภาพตึกแล้วแม่ไม่มีความหวังแล้ว โอกาสรอดมันยาก และพอเห็นมีการเริ่มเอารถหนักเข้ามา ยอมรับว่ารู้สึกกลัว กลัวจะทำให้ดินลงไปทับลูก แต่ก็ภาวนาขอให้น้องอยู่ชั้นใต้ดินเหมือนที่เขาพูดกัน ก็ยังมีความหวังที่เค้าบอกว่าอาจอยู่ชั้นสี่ และไหลลงไปชั้นใต้ดิน ได้แต่ภาวนาพยาม ทำใจยาก ยังคิดว่าลูกรอด