สังคม
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว พบเกิดแล้วอาฟเตอร์ช็อก 77 ครั้ง "ปาย" แผ่นดินไหวกลางดึก ขนาด 4.1
โดย paranee_s
29 มี.ค. 2568
1.7K views
วันนี้ (28 มีนาคม 2568) เวลา 22.00 น. ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวและความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
โดยข้อมูล ณ เวลา 19.46 น. มีจังหวัดรายงานได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวแล้ว จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ชัยนาท ลำพูน เลย กำแพงเพชร รวมถึงกรุงเทพมหานคร
ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายและรายงานข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับกรุงเทพมหานครนั้น มีรายงานอาคารร้าวและถนนทรุดตัว และมีอาคารถล่มจำนวน 1 จุด โดยเป็นอาคารที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจากรายงาน ณ เวลา 21.30 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย เสียชีวิต 8 ราย และสูญหายอีก 101 ราย จากเหตุอาคารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่ม ซึ่งทาง กทม. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์มีผลกระทบและความเสียหายเป็นวงกว้าง เพื่อให้การสั่งการ อำนวยการ และประสานการปฏิบัติในทุกระดับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัยกรณีแผ่นดินไหวเป็นสาธารณภัยระดับ 3 (สาธารณภัยขนาดใหญ่) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 - 2570 ซึ่งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดจะแปรสภาพเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดขึ้นตรงการสั่งการอำนวยการจากกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
“เหตุการณ์สาธารณภัยเป็นเหตุการณ์ภัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในครั้งนี้เป็นภัยจากแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นภัยที่ไม่สามารถทำการแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ สิ่งที่ทำได้คือการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ การลดผลกระทบให้มีน้อยที่สุด และการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเอง ทันทีที่ทราบว่ามีเหตุการณ์อาคารถล่มในเขตกรุงเทพมหานคร ได้สั่งระดมทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ กทม. ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในอาคารที่ถล่ม และสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ใกล้เคียงเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้พร้อมออกปฏิบัติการทันที โดยกำหนดให้สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ต.บางพูน อ.เมืองฯ จ. ปทุมธานี เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยเมื่อช่วงเย็น ทีม USAR ปภ. ได้ไปสมทบกับทีม USAR กทม. และร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในอาคารที่ถล่ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีความคืบหน้ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะรายงานข้อมูลให้สาธารณชนทราบเป็นระยะ สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อื่น ได้สั่งการให้จังหวัดเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายและประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโดนด่วน พร้อมประสานทุกภาคส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เป็นไปอย่างครอบคลุมทุกมิติ โดยส่งเจ้าหน้าที่เข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อรวบรวมข้อมูลความเสียหายจากจังหวัดต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมครบถ้วน และประสานการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จะปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ เวลา 9.30 น. จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ร่วมประชุมเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบถ้วนในทุกด้าน ดังนั้น ขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และขอให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทุกเขตเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณะภัยพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนการปฏิบัติการในพื้นที่ข้างเคียงและกรุงเทพมหานคร”
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานจำนวนอาฟเตอร์ช็อก จากแผ่นดินไหวกลุ่มรอยเลื่อนสะกาย บริเวณประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 29 มี.ค. 68 พบจำนวน 77 ครั้ง ซึ่งอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงต่ำ หลายพื้นที่ของประเทศไทยแทบไม่รู้สึกถึงแรงสั่นไหว
นอกจากนี้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานว่า เมื่อเวลา 23.21 น. เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 4.1 บริเวณ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ความลึก 5 กิโลเมตร สั่นสะเทือนจนประชาชนสามารถรับรู้ได้ นอกจากนี้ยังมีการรายงานแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยอีกเป็นระยะ ขนาด 1.5 – 2.1 ส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร
โดยเมื่อเวลา 23.21 น. ของคืนวันที่ 28 มี.ค 68 ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนขนาด 4.1 ริกเตอร์ ระดับความลึก 5 กิโลเมตร โดยกรมทรัพยากรธรณีรายงานสาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของกลุ่มรอยเลื่อนเวียงแหง มีการวางตัวตามแนวเหนือ – ใต้ บริเวณใกล้ชายแดนประเทศเมียนมา มีลักษณะการเลื่อนตัวแบบเลื่อนปกติ หลังจากนั้นก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รายงานการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ อ.ปาย ว่า มีเหตุแผ่นดินไหวในเวลา 03.24 น.บริเวณศูนย์กลาง ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ขนาด 2.0 ริกเตอร์ ต่อมาเมื่อเวลา 07.02 น. เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ขนาด 3.1 ริกเตอร์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่งอสอน ประมาณ 38 กิโลเมตร จากนั้นเวลา 07.44 น. เกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ ต.แม่นาเติง อ.ปาย ขึ้นอีกขนาด 3.3 ริกเตอร์ ขณะที่ชาว อ.ปาย ระบุในช่วงกลางคืนจนถึงเช้าของวันที่ 29 มี.ค เกิดแผ่นดินไหวขึ้นใน อ.ปายไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุจากเหตุแผ่นดินไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายได้แก่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ศาลากลางจังหวัดหลังใหม่มีรอยร้าว อ.ปาย ศาลาที่พักริมทางบริเวณแหล่งท่องเที่ยวกองแลนพังเสียหาย อาคารโรงพยาบาลปายเกิดรอยร้าว โรงเก็บกระเทียมใน อ.ปาย พังเสียหาย 3 หลัง รถบรรทุกกระเทียมเสียหาย 2 คัน ส่วนที่ อ.ขุนยวมอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลขุนยวมมีรอยร้าว และที่ อ.สบเมย บริเวณทางเดินเชื่อมอาคารโรงพยาบาลสบเมยได้รับความเสียหาย
แท็กที่เกี่ยวข้อง