สังคม
ชาวบ้านสุดทน โรงงานปลูกกัญชากลิ่นคลุ้ง ทำเวียนหัวจนนอนไม่ได้-เด็กไอเป็นเลือด
โดย nicharee_m
27 มี.ค. 2568
1.3K views
ผู้ว่าฯ อุดรธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯ หลายหน่วยงานบุกตรวจสอบโรงงานปลูกกัญชา หลังชาวบ้านร้องเรียนเดือดร้อนหนัก กลิ่นฉุนและเหม็น 24 ชั่วโมง คนแก่เวียนหัวแทบเดินไม่ได้ เด็กไอจนเป็นก้อนเลือด เจ้าของหนีหายเข้ากลีบเมฆทิ้งแรงงานต่างด้วยให้ถูกจับ
วันนี้ (27 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภานุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วยได้นำเอกสารหลักฐานการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านกว่า 70 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่ 13 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าพบ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากนายราชันย์ ซุนฮั่ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
ต่อมา เวลา 11.00 น.ได้มีการประสานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผลิตกัญชาดังกล่าว ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอเมือง, ทสจ.อุดรธานี, สำนักฯสิ่งแวดล้อมภาค9, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, สำนักวิชาการเกษตร, เกษตรจังหวัด, กอ รมน.เจ้าหน้าที่ฯ จากสวัสดิการแรงงานจังหวัดอุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตร.ตม. ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานปลูกกัญชาทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบโกดังคล้ายโรงงาน 3 หลัง ติดแอร์กว่า 30 ตัว ด้านหลังพบไร่ปลูกกัญชา ด้านข้างมีกัญชาตากแห้งจำนวนหนึ่ง และประตูโกดังเปิดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเรียกผู้ดูแลแต่ไม่มีใครออกมา แต่เจ้าหน้าที่เห็นบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ด้านในจึงเข้าตรวจสอบด้านใน พบแรงงานต่างด่าวชาวเวียดนาม 3 คน เฝ้าต้นกัญชาที่อยู่ในห้องแอร์ เจ้าหน้าที่ ตร.ตม.และแรงงานจังหวัดฯ จึงขอตรวจใบอนุญาตทำงาน ปรากฏว่าไม่มีใบนำแสดงเจ้าหน้าที่จึงจับดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่อำเภอและจังหวัดได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและและนายก อบต.เชียงมาให้ข้อมูลโรงงานดังกล่าวซึ่งนายกส่งนิติกร อบต.มาแทน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามไปยังผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน/นิติกร ถึงที่มาของโรงงานนี้จึงได้ข้อมูลว่า โรงงานนี้เปิดโรงแรกในปี 2566 และอีก 2 โรงเปิดทำการเมื่อต้นปี 2568 แต่ไม่ได้มีการทำประชาคมก่อน เนื่องจากมีการขออนุญาตสร้างเป็นโกดังเก็บสินค้าเท่านั้นแต่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นสินค้าอะไร แต่กลับมีการไปขออนุญาตผลิตและแปรรูปกัญชาและส่งออกกับทาง สสจ. ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พยามติดต่อเจ้าของโรงงานดังกล่าวให้มาพบเพื่อชี้แจงแต่เจ้าของโรงงานกลับไม่ยอมมา
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับชาวบ้านถึงผลกระทบที่ได้รับชาวบ้านบอกกับสื่อว่าได้กลิ่นเหม็นกัญชาจากโรงงานนี้แทบจะทุกวันบางวันช่วงเย็นบางวันช่วงบ่ายบางวันดึกๆ เที่ยงคืนจนเช้าเกือบ 24 ชม.ก็ว่าได้ มีกลิ่นเหม็นของกัญชาจนนอนไม่ได้ หลายคนมีอาการแสบตา และไออย่างรุนแรงอย่างเด็กวัย 7 ขวบ ไอจนเป็นเลือด เดือดร้อนหนักมาก
ผู้ปกครองเด็กเอ อายุ 7 ขวบ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานหลานสาวได้กลิ่นเหม็นจนแสบจมูกและมีเลือดกำเดาไหลออกมาเป็นก้อน หากโรงงานปลูกกัญชาอยู่ต่อไป รับรองลูกๆ หลานๆ ไม่มีอายุยืนแน่
ส่วนคุณยายท่านหนึ่งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองแพ้กลิ่นกัญชามากพอได้กลิ่นก็จะเวียนหัวมากร่างกายอ่อนแรง ได้แต่นอนลุกไปไหนไม่ได้เลย ส่วนชาวบ้านที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก็เล่าให้สื่อฟังอีกว่า เหม็นกลิ่นมากเคยร้องไปยังหน่วยงานในพื้นที่ก็มาตรวจแต่ก็ยังเหมือนเดิม และเคยถูกเจ้าของโรงงานขู่จะฟ้องถ้ามาร้องเรียนหน่วยงานราชการอีก แต่พวกชาวบ้านทนกลิ่นไม่ไหวแล้วจึงมาร้องสื่อขอความช่วยเหลือเพราะทนไม่ไหวแล้ว
ทางด้านเจ้าหน้าที่อำเภอแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เจ้าของโรงงานคงไม่ยอมมาพบแล้วทางอำเภอจะได้รายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เพื่อประสานทาง นายก อบต.เชียงยืน และเจ้าของโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนัดให้มาชี้แจงและให้นำเอกสารที่มีทั้งหมดเข้ามาให้ตรวจสอบรวมถึงจะให้เจ้าของโรงงานพาตรวจสอบโรงงานอีกครั้งหนึ่ง ถ้าพบว่ามีความผิดในส่วนใดก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ทราบว่าโรงงานปลูกกัญชาแห่งนี้เป็นของนายทุนชาวเวียดนาม
แท็กที่เกี่ยวข้อง อุดรธานี ,โรงงานปลูกกัญชา