สังคม

หญิงขับฟอร์จูนเนอร์ชน 2 พี่น้องดับ โต้ลูก 2 ขวบนั่งคาร์ซีท ไม่ได้เล่นพวงมาลัย

โดย passamon_a

24 มี.ค. 2568

172 views

จากกรณีช่วงเย็น วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถฟอร์จูนเนอร์พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดที่ถนนสายสตึก-โนนจำปา บริเวณบ้านยางงาม หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์


โดยเมื่อตำรวจ สภ.สตึก ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งตกลงไปในสระน้ำข้างทาง ซึ่งในสระไม่มีน้ำ ด้านหน้ารถพังยับ ส่วนรถจักรยานยนต์คู่กรณี กระเด็นห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร บนถนนพบร่าง ด.ญ. อายุ 13 ปี ที่ใต้ท้องรถยนต์ที่ตกลงในสระน้ำยังพบร่าง ด.ช. อายุ 9 ปี เสียชีวิตทั้งสองพี่น้อง  


ส่วนในรถฟอร์จูนเนอร์ พบ น.ส.พิรุณ อายุ 43 ปี เป็นคนขับ มี ด.ช.เอ อายุ 12 ปี และ ด.ช.บี อายุ 2 ปี ลูกชายอยู่ในรถด้วย ทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บ


ขณะที่ นางทองจันทร์ อายุ 62 ปี ยายของเด็กที่เสียชีวิต ร่ำไห้กอดร่างหลานทั้งสองคน พร้อมเล่าว่า หลานขอเงินยายจะออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว โดยพี่สาวอายุ 13 ปี เป็นคนขี่รถ มีน้องอายุ 9 ปี เป็นคนซ้อนท้าย ตนก็มองตาม เห็นหลานขับรถออกไปยังไม่ถึง 50 เมตร รถยนต์คู่กรณีซึ่งขับมาด้วยความเร็ว แล้วข้ามเลนมาชนรถจักรยานยนต์ของหลานอย่างจัง เห็นหลานคนโตลอยกระเด็นออกมา ตนกับสามีจึงรีบวิ่งไปหาหลาน ตอนแรกหลาน 13 ปี ยังมีสติอยู่ แต่หลังจากนั้นก็เสียชีวิต ส่วนหลานคนเล็กหาไม่เจอ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจึงพบว่าอยู่ใต้ท้องรถยนต์


นางทองจันทร์ เล่าด้วยว่า ด้วยความโมโห จึงเข้าไปถามคนขับรถว่าเกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบจากคนขับรถว่า ขับรถออกมากับลูกรวม 3 คน ลูกชายคนโตอายุ 12 ปี นั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนลูกชายคนเล็กอายุ 2 ขวบ ให้นั่งตักตรงพวงมาลัย ระหว่างนั้นหันไปดูลูกชายคนโต ลูกชายคนเล็ก 2 ขวบ ที่นั่งตักอยู่ จึงหักพวงมาลัยเล่น พอหันมาอีกที รถก็พุ่งไปชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้ว


นางทองจันทร์ เล่าทั้งน้ำตาว่า พ่อแม่หลานเลิกกัน ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก หลานคนโตอยากเป็นพยาบาล แต่ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร


ต่อมาวันที่ 23 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม น.ส.พิรุณ คนขับรถยนต์คู่กรณี ออกมาโต้ว่า เหตุการณ์ไม่ได้เหมือนตามที่ข่าวนำเสนอไป ความจริงแล้วลูกชายวัย 2 ขวบของตน นั่งอยู่บนคาร์ซีท ซึ่งวางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับรถ ช่วงเกิดเหตุตนขับรถด้วยความเร็วเพียง 70-80 กม./ชม. เท่านั้น บริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งนิด ๆ ตอนนั้นลูกชายคนเล็กเอามือปิดตาบอกว่ากลัว จากนั้นลูกชายอาเจียนออกมา จึงหันไปบอกลูกชายคนโตอายุ 12 ปี ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ว่าให้หากระดาษมาเช็ดให้น้อง แล้วรถก็พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ตนคาดว่าเด็กน่าจะออกมาจากถนนในซอย


น.ส.พิรุณ บอกว่า ตอนแรกคิดว่าฝัน พอถุงลมนิรภัยมากระแทกใส่หน้า จึงรู้สึกตัวว่านี่เป็นเรื่องจริง และยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวงมาลัยเลย ส่วนที่ญาติผู้เสียชีวิตมาถามหลังจากเกิดอุบัติเหตุนั้น ตนยอมรับว่ามีคนมาถามจริง แต่ตนเล่าเหตุการณ์ไปเหมือนกับที่เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง  


สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือ ตนพร้อมช่วยเหลือเต็มที่เพราะเห็นใจ เท่าที่ทราบยายเลี้ยงหลานมาตั้งแต่อายุ 4 เดือน ตามลำพัง เพราะพ่อแม่เด็กแยกทางกัน ไม่มีใครส่งเงินมาเลี้ยงดูหลาน


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพรถฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุ พบว่าด้านหน้ารถและหลังรถมีกล้องอยู่ แต่ไม่พบเมมการ์ดของกล้อง เมื่อสอบถาม น.ส.พิรุณ บอกว่าได้ถอดเมมการ์ดออก เมื่อผู้สื่อข่าวขอดูการ์ด น.ส.พิรุณ ก็ให้ดู พบว่าในการ์ดยังมีพื้นที่เหลืออยู่ แต่ไม่มีภาพช่วงเกิดเหตุ


ขณะที่บรรยากาศงานศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางทองจันทร์ ยืนยันอีกว่า รถยนต์ข้ามเลนมาชนหลานทั้งสองคนต่อหน้าต่อตา จำติดตาว่ารถวิ่งมาด้วยความเร็วเหมือนลมพัด


นางทองจันทร์ บอกด้วยว่า เมื่อช่วงเช้า พ่อของคนขับรถยนต์คู่กรณี นำน้ำดื่มมาช่วยงานศพ ยอมรับว่าตนหนักใจเรื่องคดี เพราะตนเป็นคนจน แต่ตำรวจบอกกับตนว่า ไม่ต้องเป็นห่วง  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์ของ น.ส.พิรุณ มี พ.ร.บ.ภาคบังคับ และมีประกันภาคสมัครใจ ซึ่งน่าจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่เด็กที่เสียชีวิตได้กลับมาที่บ้านแล้ว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/NcbgF8pVy9s

คุณอาจสนใจ