ไฟไหม้ รพ.รามาฯ เปิดนาทีอพยพผู้ป่วย-เด็กแรกเกิด ปลอดภัย งดให้บริการอาคารหลัก 48 ชม.

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 เวลา 19.20 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยตำรวจ สน.พญาไท เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท พร้อมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เร่งลงพื้นที่เกิดเหตุ    


เวลา 19.22 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยถึงที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นอาคาร 1 ความสูง 9 ชั้น ชั้นที่ 1-4 เป็นห้องปฏิบัติการ ส่วนชั้นที่ 5-9 เป็นห้องพักผู้ป่วย ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น 2 ด้านซ้ายของอาคาร  


ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปยังชั้น 2 ที่เกิดเพลิงไหม้ พยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ก็เร่งอพยพผู้ป่วยที่อยู่ชั้น 5-9 ออกไปนอกตัวอาคารทันที โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ ในส่วนของผู้ป่วยที่ยังสามารถเดินได้เอง ก็ทยอยเดินลงบันไดมาทีละชั้น ท่ามกลางเสียงกริ่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ ผู้ป่วยผู้ใหญ่บางคนที่เดินได้ก็ช่วยอุ้มผู้ป่วยเด็กลงมา ผู้ป่วยสูงอายุก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยประคองลงบันได พร้อมทรัพย์สินที่จำเป็น ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินเองได้ก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยอุ้มลงบันไดมา โดยส่วนใหญ่ควบคุมสติได้ ไม่มีอาการตื่นตระหนก


ส่วนที่แผนกเด็กแรกเกิด ที่ชั้น 6 เจ้าหน้าที่พยาบาลก็เร่งอพยพเด็กแรกเกิดออกมาจากตัวตึก โดยใส่ในรถเข็นเปล ทยอยพาออกไป ท่ามกลางควันไฟที่ค่อนข้างหนาทึบ


เวลา 19.27 น. ชุดดับเพลิงเข้าถึงจุดเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นห้องตรวจเลือดชั้น 2 ตรงตู้เก็บความเย็นที่ใช้เก็บเลือด และอยู่ใกล้กับตู้เอกสาร เพลิงลุกไหม้เอกสารและโต๊ะเก้าอี้ ทำให้เกิดกลุ่มควันกระจายขึ้นไปจนถึงชั้น 9 เจ้าหน้าที่ต้องรีบตัดไฟฟ้า และฉีดน้ำ โดยต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะห้องแคบ มีควันจำนวนมาก และร้อนจัด ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงควบคุมเพลิงได้ เจ้าหน้าที่ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบพกพา ตรวจสอบหาจุดที่ยังมีไฟไหม้ และฉีดน้ำต่อเนื่อง พร้อมกับเร่งระบายควันไฟออก  


โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดับเพลิงนั้น เพจ Fire & Rescue Thailand ระบุว่า ได้รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ติดอยู่ในห้องผ่าตัดที่ชั้น 3 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการภายในอาคารจึงไปตรวจสอบ แต่ไม่พบว่ามีผู้ติดค้างอยู่ในห้องผ่าตัดดังกล่าว ส่วนห้องผู้ป่วยชั้น 5-9 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการภายในอาคารอพยพผู้ป่วยประมาณ 20 คน ออกมาที่ด้านหน้าอาคารได้อย่างปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 กองทัพภาคที่ 1 กำลังพลจิตอาสา กองทัพภาคที่ 1 และกรมสารวัตรทหาร มาช่วยอพยพผู้ป่วยด้วย ซึ่งผู้ป่วยบางราย เมื่อออกมาด้านนอกตัวอาคารแล้ว เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ต้องเร่งตรวจอาการ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยไม่ได้รับความกระทบกระเทือนจากการเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยบางคน ญาติและพยาบาลต้องช่วยพัดระบายอากาศให้ เพราะตอนอพยพต้องเข็นเตียงฝ่ากลุ่มควัน ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ชั้น 7 ไม่ได้รับผลกระทบ ปลอดภัยดีทั้งแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย


ส่วนผู้ป่วยอาการวิกฤต ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์และพยาบาลประเมินอาการ และเคลื่อนย้ายไปยังอาคารใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย ก่อนประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลพระมงกุฎ และวชิรพยาบาล รับผู้ป่วยกลุ่มอาการวิกฤตไป


นอกจากนี้ เพจ จส.100 รายงานว่า ขณะที่อพยพผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ทหาร ต้องปิดถนนพระราม 6 ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยในการอพยพผู้ป่วย และสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างมาก  


จนเวลาประมาณ 20.55 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด และอพยพผู้ป่วยทั้งหมดปลอดภัย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต  


หลังเกิดเหตุ เวลา 23.04 น. เพจคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital ออกประกาศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ฉบับที่ 1 : พบเหตุกลุ่มควันและเพลิงไหม้ที่อาคารหลัก (อาคาร 1) โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า


เนื่องด้วยในวันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 19.20 น. พบเหตุกลุ่มควันและเพลิงไหม้ที่อาคารหลัก (อาคาร 1) โรงพยาบาลรามาธิบดี  จึงได้แจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เพื่อเข้ามาระงับเหตุ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนที่รับการรักษาอยู่ภายในอาคารหลัก ออกนอกพื้นที่ในทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยเข้าระงับเหตุ โดยปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดีได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด


ในระยะแรก โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด ทั้งการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก รวมทั้งงดการผ่าตัด เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยภายในอาคาร และของดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน


สำหรับงานเวชระเบียน การบริจาคโลหิตและจุดเจาะเลือด ขอให้ใช้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ


หากมีความคืบหน้า ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจะแจ้งให้ทราบต่อไป หรือหากท่านมีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถสอบถามข้อมูลการให้บริการในระหว่างนี้ได้ที่ Call Center 0-2201-1000 และ 0-2200-3000

https://youtu.be/hbbPtAP-IBE