พระ-แม่ค้ารุมทำร้ายเด็ก 14 อ้างขโมยของ เจ้าตัวยันไม่ได้ทำ แต่ถูกเค้นให้ยอมรับ

พ่อแม่โวยเกินกว่าเหตุ พาลูกชายแจ้งความพระ-แม่ค้า หลังถูกรุมทำร้าย อ้างเด็กขโมยของ เจ้าตัวยันไม่ได้ทำ แต่ถูกตบหน้า-กระทืบหน้าอก เค้นให้ยอมรับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 มี.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายนนท์ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี และ นางสาวแนน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สามีภรรยา ว่า ลูกชาย วัย 14 ปี ชื่อ เด็กชายบอส ถูกพระภิกษุสงฆ์ และ แม่ค้าขายของ ภายในวัดแห่งหนึ่งใกล้บ้านพัก พื้นที่ หมู่ 1 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รุมทำร้าย โดยกล่าวหาว่าลูกชายขโมยของในวัด

นายนนท์ เปิดเผยว่า ช่วง 20.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากแฟน ว่าลูกชายเข้าไปขโมยของในวัดใกล้บ้าน จึงรีบเข้าไปดู แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึง มีพระรูปหนึ่ง อายุประมาณ 20 ปลายๆ และ แม่ค้า (ขายของประเภทเครื่องดื่ม) ภายในวัด อายุประมาณ 50 ปี ได้รุมตำหนิตนเองอย่างรุนแรง กล่าวหาลูกชายว่าขโมยของ แต่ไม่บอกว่าของที่ขโมยไปเป็นสิ่งของอะไร ขณะที่ลูกชายก็หายตัวไป ตนเองพยายามออกตามลูกชายแต่ไม่พบ จนเวลาผ่านไป 4 วัน พบว่าลูกชายแอบไปอยู่บ้านน้า ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากวัดที่เกิดเหตุ ประมาณ 11 กม.

พ่อไปรับลูกชายกลับมา ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ถูกพระ ชื่อว่าหลวงพี่นิก และ ป้าเขียวหวาน ทำร้ายและกล่าวหาว่าเข้าไปขโมยของ โดยป้าเขียวหวาน ตบที่หน้าลูกชายหลายครั้ง ส่วนหลวงพี่นิก ใช้เท้ากระทืบหน้าอก เพราะต้องการ เค้นให้ลูกชายยอมรับ ว่าเข้าไปขโมยของจริงหรือไม่ ซึ่งตนเองได้พยายามถามลูกชาย ว่าทำจริงหรือไม่ ลูกชายก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ จึงได้พาลูกชายไปแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับพระลูกวัดและแม่ค้ารายนี้

เด็กชายบอส กล่าวว่า ในช่วงนี้ไปอาศัยวัดอยู่ เพราะตั้งใจจะบวชเป็นเณรในภาคฤดูร้อน ในวันเกิดเหตุ วันที่ 4 มี.ค. ช่วงเย็นได้ขึ้นไปทำวัตรเย็น ร่วมกับพระและญาติโยม ที่ศาลาการเปรียญ พอใกล้จะเสร็จ เณรได้ชวนให้ลงไปรอที่ใต้ถุนศาลาการเปรียญ เพื่อจะเล่นเกมกัน ระหว่างที่นั่งรอ ซึ่งบริเวณดังกล่าวค่อนข้างที่จะมืด จากนั้นหลวงพี่นิกและป้าเขียวหวานได้เข้ามาดุด่า กล่าวหาว่าไปขโมยของ ซึ่งตนเองก็พยายามบอกว่าไม่ได้ทำ แต่ก็ไม่มีใครฟัง แถมยังถูกป้าเขียวหวานตบหน้าหลายตบหน้าหลายครั้ง ก่อนที่หลวงพี่นิกจะมากระทืบซ้ำเข้ากลางหน้าอก ด้วยความกลัวจึงวิ่งหนีออกทางด้านหลังวัด แล้วเดินไปตามทางรถไฟ ก่อนที่จะมีคนใจดี มาจอดรถจักรยานยนต์รับ แล้วพาไปส่งบ้านน้าที่เอื้ออาทรหนองไม้แก่น สาเหตุที่คืนนั้นไม่อยากกลับบ้าน เพราะกลัวพ่อแม่ดุ จึงไม่กล้ากลับบ้านไป และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้น