กู้ภัยงง เจอใบสั่งปรับ 500 ขณะนำส่งผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่ง ทั้งที่เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง

กู้ภัยงง เจอใบสั่งตำรวจให้จ่าย 500 บาท ขณะนำส่งผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่ง ทั้งที่เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง ยันต้องใช้ความเร็ว เพราะยาสลบอาจหมดฤทธิ์ก่อน

มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเสริมงามลำปาง ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง ส่งมาหาผู้ครอบครองรถ สมาคมกู้ภัยเสริมงามลำปาง โดยเหตุเกิดที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน บนถนนลำปาง-เชียงใหม่หมายเลข 11 ถนนขาขึ้น โดยเจ้าที่กู้ภัยเสริมงามได้รับใบสั่ง ถูกจับความเร็วรถที่ 118 กม./ชม. ด้านเจ้าหน้าที่เสริมงาม อยากได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าเวลาส่งผู้ป่วยต้องใช้ความเร็ว โดยกรณีดังกล่าวเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวชมีอาการคลุ้มคลั่ง นำไปส่งที่ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ โดยขณะขับรถก็เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลา แต่ถูกตำรวจทางหลวง ส่งใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ 500 บาทดังกล่าว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่คนขับรถคนดังกล่าวคือ นายอัษฎากรณ์ แก้วปัญญา หัวหน้าชุดปฏิบัติการฉุกเฉินสมาคมกู้ภัยเสริมงาม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนั้นไปขับรถกู้ภัยคันนี้จริง และระหว่างทางก็ต้องใช้ความเร็ว เพราะหากไปส่งช้า แล้วยาสลบหมดฤทธิ์ ผู้ป่วยอาจจะลุกขึ้นมาแล้วคลุ้มคลั่งก็เป็นได้

นายอัษฎากรณ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2568 เวลา 17.20 น. กู้ภัยเสริมงามรับประสานจากโรงพยาบาลเสริมงาม ขอนำส่งผู้ป่วยจิตเวชส่งที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปรักษาตัวต่อ โรงพยาบาลแจ้งว่าได้ฉีดยาสลบให้ผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันคลุ้มคลั่งและให้กู้ภัยเสริมงามนำส่งได้ทันที โดยมีระยะเวลาช่วงหนึ่ง ไม่งั้นยาหมดฤทธิ์คนไข้อาจจะกลับมาอาละวาดได้ หากไม่ยินยอมที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุงตามความประสงค์ของญาติ

เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวกู้ภัยเสริมงามใช้ความเร็วระดับหนึ่ง เพื่อให้ถึงที่หมายปลายทางได้รวดเร็วและเปิดไฟไซเรนตลอดทาง ซึ่งการเปิดไฟโซเรนบ่งบอกกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับจดหมายจากตำรวจทางหลวงว่า รถกู้ภัยฝ่าฝืนกฎหมายคือขับเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้ความเร็วที่ 118 ในท้องที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน จึงเกิดข้อสงสัยว่าจะต้องไปจ่ายค่าปรับหรือไม่