ชาวไร่น้ำตาตก ราคามันสำปะหลังตกต่ำ ขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี ซ้ำเจอเพลี้ยไฟ

เกษตรกรเดือดร้อน ประสบปัญหาเพลี้ยไฟระบาด ซ้ำราคามันสำปะหลังตกต่ำ ขาดทุนมาแล้ว 2 ปี เคยขายได้ 20,000 บาท เหลือ 2,000 บาท วอนรัฐแก้ปัญหา ขณะผู้ใหญ่บ้านรวบรวมข้อมูลส่งให้เกษตรอำเภอรับทราบเพื่อแก้ปัญหาโรคระบาด

วันนี้ (24 ก.พ. 2568) ที่บ้านห้วยทราย ม.3 ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกำลังประสบปัญหาเพลี้ยไฟระบาด ซ้ำราคามันสำปะหลังตกต่ำ อยู่ที่ 1.90 บาท เกษตรกรต้องขาดทุนมาแล้ว 2 ปี ปีที่แล้ว ประสบปัญหาหัวมันเน่า โรงงานไม่รับซื้อ เคยขายได้ 20,000 บาท เหลือ 2,000 บาท

นางสายตา เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง กล่าวว่า ตนเองมีไร่มัน 12 ปีที่ผ่านมาประสบกับปัญหามันสำปะหลังเน่าจะฝนที่ตกลงมา ราคาขายอยู่ที่กิโลละ 1.30 บาท จากที่เคยขายมัน 3 ไร่ได้ 20,000 บาท ขายได้เพียง 2,000 บาท ขาดทุนย่อยยับ ทำให้ไม่มีเงินใช้หนี้ ธกส. โดยปีนี้เริ่มปลูกมันตั้งแต่เดือนตุลาคม 67 จะครบกำหนดเก็บเกี่ยวเดือน กันยายน 68 ซึ่งตอนนี้เริ่มประสบปัญหาเพลี้ยไฟระบาด ต้นมันใบหยิก เป็นโรคใบด่าง ซ้ำร้ายราคามันสำปะหลังก็ตกต่ำ เท่าที่ทราบคือโรงงานรับซื้อกิโลกรัมละ 1.90 บาท ลงทุนไปแล้ว 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้ใส่ปุ๋ยรอบ 2 เบ็ดเสร็จจะต้องลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 40,000 บาท เป็นค่าไถ ค่าปลูก ค่าปุ๋ย ค่ากำจัดวัชพืช ซึ่งราคา 1.90 บาท ชาวไร่มันอยู่ไม่ได้ ยังไงก็ขาดทุนแน่นอน อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือขอให้ราคามันอยู่ที่กิโลกรัมละ 3-3.50 บาท เกษตรกรถึงจะอยู่ได้ 2 ปีที่ผ่านมาขาดทุนมาตลอด เงินใช้หนี้ ธกส. ไม่มีแล้ว

นางสุภาพร เกษตรกรอีกราย กล่าวว่า มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 12 ไร่ ตอนนี้เกิดปัญหาโรคใบหยิก ใบด่าง เพลี้ยไฟ ประกอบกับภัยแล้ง ปีนี้ลงทุนไปแล้ว 30,000 บาท ทั้ง ค่าปุ๋ย ค่าแรง ค่าไถ ค่าเก็บวัชพืช ซึ่งปีที่ผ่านมาราคามันตกต่ำมาก เพราะเจอมันเน่า ขายได้โลละ 1.20 บาท ไม่ได้ราคาทำให้ขาดทุน แต่ก็ต้องปลูก เพราะเป็นอาชีพของบรรพบุรุษ แต่กลับต้องมาได้ยินข่าวว่าราคามันตกต่ำอีก ราคารับซื้ออยู่ที่โลละ 1.90 บาท ซึ่งราคาต่ำมาก ขายไม่ได้ราคาต้องขาดทุนต่อเนื่องอีกแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็รอคอยความหวังว่าเมื่อไร่มันสำปะหลังจะได้ราคาดี ขอแค่โลละ 3 บาทขึ้นไป ก็จะช่วยชาวไร่มันได้ หรืออยากได้รัฐบาลมีโครงการประกันราคา ก็จะสามารถช่วยเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง

ด้านนายอำพร พิเมย ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยทราย ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ในพื้นที่มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง อ้อย รวมกว่า 4,000 ไร่ มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนปลูกมันสำปะหลังไว้จำนวน 60 กว่าราย พื้นที่ 600 กว่าไร่ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่ไว้ส่งโรงงาน ซึ่งจากการรับฟังปัญหาจากชาวบ้านช่วงนี้ ชาวไร่มันประสบปัญหาโรคระบาด เป็นเพลี้ยไฟ โรคใบหยิก ใบด่าง ประกอบกับภาวะภัยแล้ง ฝนยังไม่ตกลงมา หากฝนตกก็อาจบรรเทาได้บ้าง จึงได้ทำการรวบรวบข้อมูลจากพี่น้องเกษตรกร ผู้ได้รับผลกระทบ ส่งไปให้กับเกษตรอำเภอ เพื่อดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป