"ครูปรีชา" ทำตามที่ลั่นวาจา ปรับปรุงพื้นที่บ้านเช่า ก่อนส่งคืนให้เจ้าของ

ความคืบหน้ากรณี นางพิมลวรรณ อายุ 57 ปี ร้องเรียนว่าถูก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เข้ามาเช่าบ้าน ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านมีเนื้อที่กว่า 2 ไร่เศษ เพื่อเปิดเป็นร้านอาหาร แต่ปรากฏว่าเมื่อย้ายของออก ครูปรีชา กลับไม่ชำระค่าเช่าบ้านในเดือนสุดท้ายจำนวน 5,000 บาท และยังไม่ชำระค่าไฟฟ้ารวม 2 เดือน เป็นเงินจำนวน 4,000 กว่าบาท ส่งผลให้บ้านถูกตัดไฟฟ้า สภาพภายในบ้านผุพังหลายจุด รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เจ้าของบ้านฝากเอาไว้ในห้องเก็บของ ถูกงัดกุญแจห้องและข้าวของภายในห้องเก็บของหายไป

ล่าสุด ครูปรีชา ได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พร้อมนำรถแบ็กโฮเล็ก เข้าไปปรับพื้นที่บริเวณที่มีการขุดเป็นร่องน้ำเพื่อนำดินมาถมกลบให้กลายเป็นที่ราบปกติ รวมถึงตัดต้นกล้วยและต้นไม้ออกทั้งหมดตามความประสงค์ของเจ้าของบ้าน

โดย ครูปรีชา กล่าวว่า หลังจากได้ไปออกรายการร่วมกับนางพิมลวรรณ ซึ่งเป็นคู่กรณี และเป็นเจ้าของบ้านเช่า ได้พูดคุยปรับความเข้าใจ และทำข้อตกลงกัน โดย นางพิมลวรรณ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ตนดำเนินการ 3 ข้อ คือ 1. ดำเนินการไถกลบ พื้นที่ที่ตนทำการขุดเป็นบ่อปลาและสระบัว ให้เรียบร้อย กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งตนได้นำรถแบ็กโฮเข้ามาดำเนินการปรับปรุงให้

2. ดำเนินการซ่อมแซมฝ้าภายในบ้าน ซึ่งมีสภาพชำรุดและพังถล่มในบางจุดให้กลับอยู่ในสภาพดี ซึ่งตนได้นัดช่างให้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมให้เรียบร้อยภายในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์

และข้อ 3. เรื่องของผนังและกำแพงในบ้านแต่ละจุด ซึ่งมีการเจาะและทุบเป็นรู ตนก็ได้ให้ช่างเข้ามาดำเนินการอุดรูรั่วและซ่อมแซมฝาผนังตามจุด ที่เป็นรูให้เรียบร้อยในวันอาทิตย์นี้เช่นเดียวกัน คาดว่าในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ จะสามารถส่งบ้านคืนให้กับนางพิมลวรรณ ได้ตามที่เคยลั่นวาจาเอาไว้

พร้อมกันนี้ ครูปรีชา ยังได้ฝากถึง นางพิมลวรรณ ว่า ในวันนี้ ตนเองได้พาช่างเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมบ้านและบริเวณพื้นที่รอบตัวบ้านเพื่อซ่อมแซมให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิม ก่อนส่งคืนให้ และขอให้นางพิมลวรรณ สบายใจ ว่าตนเองได้ทำตามที่เคยลั่นวาจาเอาไว้แล้ว ยืนยันตนเองไม่ได้มีการเบี้ยวค่าเช่าบ้านจำนวน 1 เดือน หรือติดค้างค่าไฟ 2 เดือน ตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะในตอนที่ทำสัญญาเช่าบ้าน ตนเองได้มีการวางมัดจำ 10,000 บาท ไว้กับนางพิมลวรรณแล้ว ซึ่งเมื่อหักกับค่าเช่าบ้านจำนวน 1 เดือน ที่ค้างอยู่ และเงินค่าไฟฟ้า ก็ยังไม่เกินวงเงิน 10,000 บาท ที่ตนได้ให้ไว้ ตนจึงไม่ได้ค้างค่าเช่าบ้านหรือค้างค่าไฟอย่างที่ถูกกล่าวหา

ต่อจากนี้ ตนเองจะกลับไปเปิดร้านอาหารบ้านสวนครูปรีชา โดยเปิดร้านที่บ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านที่เช่าจากนางพิมลวรรณ มากนัก โดยในช่วงกลางวันจะขายเป็นส้มตำและอาหารอีสาน ส่วนในช่วงเย็นจะเปิดขายเป็นอาหารตามสั่งและอาหารพื้นบ้านสไตล์เมืองกาญจนบุรี เพื่อต้อนรับลูกค้า รวมถึง FC ของครูปรีชา ที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการ และไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบอยู่อย่างสม่ำเสมอ