ดีเอสไอบุกค้นหมูเถื่อนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ พบเป็นฟาร์มรีดนมวัว ไม่ใช่ที่ชำแหละเนื้อสัตว์ตามที่จดทะเบียน

ดีเอสไอนำกำลังปิดล้อมตรวจค้นผู้นำเข้าหมูเถื่อนรายใหญ่ที่สุดในประเทศ พบเป็นฟาร์มรีดนมวัว ไม่ใช่สถานที่ชำแหละเนื้อสัตว์ตามที่จดทะเบียน

จากกรณีคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตรวจสอบ พบว่า กลุ่มของ นายทรงพล เทียนขำ และนายบริบูรณ์ ลออปักษิณ ที่เป็นกลุ่มนายทุน ได้ร่วมกันนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์สุกรเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีการสำแดงเท็จเป็นปลา ไม่ต้องชำระภาษีอากร เนื่องจากพิกัดอัตราภาษีศุลกากรปลาเป็น 0% โดยได้นำสินค้าออกไปจากท่าเรือแหลมฉบังแล้วไปจำหน่ายในท้องตลาดในประเทศไทย

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ากลุ่มนายทรงพล เทียนขำ และนายบริบูรณ์ ลออปักษิณ มีการโอนเงินระหว่างกันและโอนเงินไปชำระสินค้ายังบริษัทผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศ โดยมีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารหลายบัญชี รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท

ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจค้นคลังสินค้าของบริษัทสยามแม๊คโคร จำกัด (มหาชน) ที่ศูนย์กระจายสินค้ามหาชัยและศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย พร้อมยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น ซากสุกร (หมูเถื่อน), เอกสารการรับขนสินค้าระหว่างประเทศ, คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์, บัญชีธนาคาร, ใบถอนเงิน-ฝากเงิน และเอกสารการโอนเงินระหว่างประเทศ

ต่อมาวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 126/2566 ได้นำหมายศาลจังหวัดสระบุรีเข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายรายสำคัญ ในเขตพื้นที่ตำบลลำพญากลาง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่เป็นผู้นำเข้าหมูเถื่อนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยกลุ่มดังกล่าวได้นำเข้าหมูเถื่อนมาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นจำนวนมากที่สุดและมีมูลค่าสูงที่สุด และยังได้จัดจำหน่ายให้กับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ของไทย กระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นพบว่า บริษัทดังกล่าวเคยจดทะเบียนไว้ยังบ้านเลขที่นี้ แต่ปัจจุบันพบว่าไม่มีที่ตั้งอยู่ที่นี่ บริษัทดังกล่าวได้มีการทำการโอนเงินกับอีกบริษัทที่เราได้ทำการจับกุมไปแล้วมีการโอนเงินกันจำนวนเกือบ 500 ครั้ง พร้อมทั้งมีการโอนเงินไปที่ต่างประเทศ สำหรับบริษัทที่ต่างประเทศคือบริษัท ที่ส่งชิ้นส่วนสุกรเข้ามาในประเทศไทย ส่งเข้ามาให้กับ 10 บริษัทที่ได้จับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องมาตรวจค้นที่นี่ บริษัทดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนจำนวนเกือบ 20,000 ล้านบาท

จากการตรวจสอบพบว่ามีการส่งสินค้าเข้าไปบริษัทโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่และบริษัทเล็กๆ จำนวนมาก ขณะเกิดเหตุในช่วงเวลาที่ที่เกิดโรคระบาดในประเทศไทย มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก จึงทำให้เกิดเหตุสงสัยทำให้เราเริ่มตรวจสอบ โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ร่วมทำ พรบ.ระหว่างประเทศ ร่วมกับอีกหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นอิตาลี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก บราซิล

โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบทราบว่ามีการสั่งชิ้นส่วนสุกรมาจากประเทศดังกล่าว จึงจะทำการตรวจสอบจากใบอินวอยเนื่องจากเป็นการสำแดงเท็จ การสั่งสินค้านำเข้ามาเป็นโพลิเมอร์หรือสัตว์น้ำ แต่จริงแล้วเป็นชิ้นส่วนสุกร หรือแจ้งการนำเข้าว่าเป็นปลาแต่จริงแล้วนำเข้าเป็นชิ้นส่วนสุกร จึงทำให้กลุ่มพนักงานสืบสวนสอบสวนของเอสไอจึงต้องเข้ามาตรวจสอบณพื้นที่แห่งนี้เพื่อค้นหาหลักฐาน

ปรากฏพบว่าบริษัทดังกล่าวเคยใช้ที่อยู่ที่นี่เป็นที่ตั้ง จึงสอบถามพนักงานของที่นี่พบว่าไม่เคยมาตั้งหรือทำงานที่นี่แต่อย่างใด เพียงใช้ชื่อและที่อยู่ของสถานที่นี่เป็นที่ดำเนินการรับส่งเอกสาร จากการตรวจสอบทั่วบริเวณพื้นที่ที่ทั้งหมดไม่พบว่ามีหลักฐานหรือเอกสารอะไรที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เราจับกุมแต่อย่างใด