เศรษฐกิจ

สมาคมแบงก์ หนุนตัดไฟ ยกระดับปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มองคุ้มค่าระยะยาว

โดย panwilai_c

5 ก.พ. 2568

72 views

สมาคมธนาคารไทย เห็นด้วยรัฐตัดไฟ ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นอีกกลไกที่สะท้อนว่าทางรัฐให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามแกงค์คอลเซ็นเตอร์ ย้ำต้องสกัดตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เพื่อให้การปราบปรามอาชญกรรมทางไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น



นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การตัดไฟที่จ่ายไปเมียนมา ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นอีกกลไกที่สะท้อนว่าทางรัฐให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามแกงค์คอลเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม หากดูในภาพรวมแล้ว ส่วนของต้นน้ำ ตั้งแต่ในมุมของกลุ่มเทเลคอมที่ต้องมีการดูในเรื่องของซิมการ์ด ที่วันนี้ยังเห็นการวางขายกันเกลื่อน ไปจนถึงปลายน้ำที่เงินออก คือ คริปโตฯ แล้วก็ยังต่อเนื่องไปถึงเรื่องแฟลตฟอร์มที่ไม่ได้มีเรื่องของ Governance ที่จะมาดูแลเรื่องทุจริตที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าองคาพยพเหล่านี้ทั้งหมดร่วมมือกัน การปะทะกับอาชญกรรมทางการเงิน ทางไซเบอร์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น



ส่วนการป้องกันการเปิดบัญชีม้าในส่วนของธนาคารพาณิชย์นั้น ถือว่าได้ผลดี ซึ่งระบบธนาคารเองก็ใช้ทรัพยากรค่อนข้างมากในการสร้างระบบขึ้นมา และผลักดันให้เกิดกลไกทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้สามารถจัดการระงับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1.8 ล้านบัญชี และเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมในการจัดการบัญชีม้านิติบุคคล แต่ต้องย้ำว่าม้ามันเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ได้อยู่นิ่งๆ เพราะฉะนั้นการที่เราจะรู้เท่าทันมัน ต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ One Shot ทุกองคาพยพของระบบนิเวศน์นี้ต้องยกระดับ นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น พูดคุยอยู่ตลอด เราอยากเห็นการยกระดับทั้งระบบ



ขณะที่ พรก. ที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์มีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายร่วมกันนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ความรับผิดชอบร่วมกันต้องครบทั้งทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง



อย่างไรก็ตามในเรื่องกลไกของระบบสิ่งที่เราอยากเห็นก็คือ บทบาทที่ครบทุกกลไก เพราะระบบธนาคารพาณิชย์ตอนนี้เหมือนแซนวิช เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางที่ต้องรับเข้ามาจากต้นน้ำ แล้วก็ต้องระงับการออกไปที่ปลายน้ำ ดังนั้น การออกไปที่ปลายน้ำก็ต้องสามารถระงับได้ แต่ต้นน้ำก็ต้องมีด่านสกัดบ้าง อันนี้เป็นจุดที่หวังว่าจะมีกลไกเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน



อย่างไรก็ดี บัญชีต้องสงสัยที่ถูกระงับธุรกรรมไป ก็จะต้องไปปลดล็อค โดยการยืนยันตัวตนที่เข้มข้นขึ้น และต้องยอมรับว่า มาตรการป้องกันบัญชีม้าก็จะทำให่เกิดความไม่สะดวกในระบบ แต่ก็เป็นแนวทางที่เราพยายามจะต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมให้ได้



ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยตัดสินใจตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังเมียนมา เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น เพราะปัญหาคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพต่างๆที่ผ่านมา กระทบกับภาพลักษณ์ ของประเทศไทยอย่างมาก เอกชนเข้าใจดีว่าต้องแก้ที่ต้นตอ นั่นคือ กระแสไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ต น้ำมัน ซึ่งต้องดำเนินการเด็ดขาด แม้จะส่งผลกระทบต่อกิจการบางประเภททั้งคนไทยและคนเมียนมาริมตะเข็บชายแดน แต่นับว่าคุ้มค่าในระยะยาว เพราะที่ผ่านมามิไม่ใช่แค่สูญเสียเงินทองมหาศาล แต่กระทบภาพลักษณ์อย่างรุนแรง การตัดสินใจของรัฐบาลสะท้อนถึงความเอาจริงเอาจังซึ่งดำเนินการบนกฎหมาย เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ ในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคตามชายแดนที่ผ่านมา เมียนมาเอง มีปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ทำให้ความต้องการใช้สินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการดำเนินขั้นเด็ดขาดในครั้งนี้ก็จะกระทบเล็กน้อยเท่านั้น



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8qEk6Hkr840

คุณอาจสนใจ

Related News