เลือกตั้งและการเมือง
“อนุทิน” พร้อมสั่งหยุดจ่ายไฟเมียนมา “ภูมิธรรม” ชี้เตรียมตัดไฟครึ่งหนึ่ง ชเวโก๊กโก่-เคเคพาร์ก
โดย chutikan_o
3 ก.พ. 2568
177 views
“อนุทิน” พร้อมสั่งหยุดจ่ายไฟเมียนมา หากฝ่ายมั่นคงมีหลักฐานยืนยันผิดจริง ยันไม่มีขายไฟให้บริษัทนอมินี ด้าน “ภูมิธรรม” ชี้เตรียมตัดไฟครึ่งหนึ่ง ชเวโก๊กโก่-เคเคพาร์ก โต้ มท.-กฟภ.หน่วยหน้างาน เจอปัญหาไม่รอสั่ง ลั่นจัดการส่วยชายแดนสิ้นซากรอบเดียว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่งข้อมูล ให้กระทรวงมหาดไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคง ในการหยุดจ่ายไฟตามแนวชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ได้รับทราบแล้ว ซึ่งกระทรวงมาไทยเป็นผู้ร้องขอไปเองว่า ให้ทาง สมช.ช่วยยืนยัน แหล่งกระทำผิด เพราะถ้ามีจริงก็พร้อมที่จะตัดการจ่ายไฟ แต่ สมช.ต้องยืนยันมาก่อน ทางกระทรวงมาไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที เพราะก็ไม่ได้สนับสนุนอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงขั้นตอนที่จะมีการลงพื้นที่ก่อนแล้ว จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.จะเป็นการล่าช้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การขายไฟมีสัญญาอยู่ ยังไงก็ต้องมีการยื่นหนังสือทวงถาม ซึ่งคิดว่า ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานก็เร่ง และเชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศก็คงต้องแจ้งไปยังเมียนมา ว่าหากมีกระทำผิดจริง ก็ต้องมีการเตรียมตัวไว้ ทางประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องหาแหล่งมาทดแทนพลังงาน เพราะถ้าความเสียหายกับประเทศไทยเราก็ไม่สามารถจ่ายไฟต่อไม่ได้ ซึ่งเขียนอยู่ในสัญญาแล้วแต่ต้องมีการยืนยันก่อน ซึ่งตอนนี้มีแต่ข้อมูลที่คนนั้นพูดทีคนนี้พูดที แต่ยังไม่มีการยืนยัน เราจะไปทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าทางการไทยจะหยุดจ่ายไฟ แก๊งคอลเช็นเตอร์จะปั่นไฟใช้เอง นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเขาปั่นไฟใช้เองจริง ก็ไม่มีทางที่จะได้รับความเอื้อประโยชน์จากฝั่งไทย เขาซื้อไฟของเราไป ถ้าหน่วยงานความมั่นคงให้หยุดจ่าย ทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้จะหยุดจ่ายทันที ถ้าเขาส่งมาถ้าหยุดจ่ายไฟแล้วเขาไปปั่นไฟใช้เอง ในบ้านของเขาและเชื้อเพลิงของเขา เราก็ไม่เกี่ยว โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมสับสวิตซ์
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะต้องถึงมือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รอเพียงหน่วยงานที่ไปทำข้อตกลงแจ้งกลับมา ให้ กฟภ. หยุดจ่ายไฟเราก็หยุดจ่ายไฟ ซึ่งตอนนี้ ก็มีการตอบสนองขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใด ยืนยันกลับมาว่าได้มีการกระทำผิด อย่างที่ถูกกว่าเขากล่าวอ้าง
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก็ยืนยันกลับมา ว่าไม่มีการกระทำผิดใด ๆ ในส่วนของการตรวจสอบของ ป.ป.ส. ซึ่งเราก็ต้องรอการตรวจสอบจาก สมช. ที่เป็นเจ้าภาพและมีการประชุมไปแล้ว และได้มีข้อสั่งการมา เราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ถ้าบอกว่าไม่มีก็ต้องจบแล้ว ไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้ว
เมื่อถามต่อว่าการที่ กฟภ. จะลงไปในพื้นที่ไปยังจุดจ่ายไฟนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตามจริง กฟภ. ทำเกินหน้าที่แล้วที่จะลงไป ตรวจว่าใครทำผิดหรือไม่ทำผิด เพราะเราเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ แต่ก็ทำให้ไม่เป็นไร ถ้าลงพื้นที่ไปแล้วพบว่ามีการกระทำผิดก็นำข้อมูลของ กฟภ. มาย้ำอีกที
เมื่อถามต่อว่ามีนอมินีสัมปทานไฟฟ้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี บริษัทที่จะเข้ามาทำสัญญาซื้อไฟข้ามแดนกับ กฟภ.มีการตรวจสอบยืนยันจากรัฐบาล ประเทศเพื่อนบ้านเอง และหน่วยงานความมั่นคงจากประเทศไทย ตรวจสอบหมดแล้วว่าขายได้ ไม่ใช่ว่าใครจะมาซื้อเราก็ขาย
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้า การปรับไฟฟ้าเมียนมา ภายหลังจากที่ สมช.ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ตนเองได้สั่งการให้ เลขา สมช. เรียกประชุมในระดับปฏิบัติการ พร้อมทั้งเชิญ กฟภ. มาพูดคุย เนื่องจากไม่อยากให้โยนกันไปมา ทั้งกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด โดยมีสมช.เป็นตัวกลางทำหน้าที่ประสานงาน ซึ่งเรื่องดังกล่าว เราดำเนินการมาแล้วตั้งแต่สมัยนายกฯเศรษฐา ทวีสิน
ยืนยันว่าการประชุมในช่วงเช้าของ สมช. มีความเป็นเอกภาพ ไม่ได้มีการโยนกันไปมาและสิ่งที่สำคัญ ให้ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายทั้งหมด โดยให้ประสานระหว่าง สมช. กระทรวงมหาดไทย เพื่อประสานให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อ กับเมียนมา เพื่อดำเนินการจากมาตรการเบาไปหาหนัก ให้เขาเร่งเคลียร์กับบริษัท ที่อยู่ภายในประเทศของเขา หากมีปัญหาและยังไม่ดำเนินการใดๆ ก่อนจะมีกระบวนการในการจัดการต่อไป เราแจ้งให้เขาทราบในฐานะที่เขาเป็นเจ้าของประเทศ ที่จะต้องพูดคุย และสิ่งสำคัญเรากำลังดำเนินการอยู่ อาจจะต้องใช้มาตรการตัดไฟครึ่งหนึ่ง เพื่อให้กระแสไฟตก โดยเฉพาะอำเภอแม่ละมาด กับแม่สอด จ.ตาก ที่เกี่ยวข้องกับเมืองเมืองชเวโก๊กโก่ควบคู่ไปกับมาตรการเจรจา
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรามีการพูดคุยและหารือกันมาหลายวันแล้ว และมีข้อเสนอแนะ จากที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก ในวันที่4 ก.พ.เวลา15.00 น.ที่กระทรวงกลาโหม นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณะ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมาเข้าพบตนและจะพูดคุยในเรื่องของรายละเอียด ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร และทางจีนก็คงมีข้อเสนอแนะ
นายภูมิธรรม ย้ำว่า เท่าที่ดูทางการจีนเคารพในอธิปไตยของไทย และไม่รู้สึกเป็นเหมือนกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้น ซึ่งทางจีนก็ยังมาขอข้อมูลจากเราว่า กระบวนการต่างๆ จะทำงานร่วมกันอย่างไร จึงขอคุยรายละเอียดเรื่องนี้ก่อน แล้วค่อยมาสรุปผลอีกครั้งหนึ่ง และทางสมช. จะสรุปข้อมูลส่งมาให้ตน และในวันพฤหัส 6 ก.พ. ตนจะเดินทางไปยังชายแดนแม่สอน จังหวัดตาก กลับมาก็จะมีการสั่งการที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการตัดไฟครึ่งหนึ่ง
นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า สำหรับมาตรการการตัดไฟ เกี่ยวข้องเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นเรื่องที่ตกลงกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน ว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งการที่เราขายไฟฟ้าให้กับเมียนมา ไม่ต่างกับที่ ลาวขายให้กับสิงคโปร์ ก็จะดำเนินการขายไฟให้ต่อไป ตราบใดที่ไม่มีข้อผู้สูจย์ชัดเจนว่า มีการกระทำผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคง เราก็มีข้อมูลอยู่แล้ว และสำรวจมาต่อเนื่อง ว่ามีการนำไฟไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ มีการตรวจสอบบริเวณตามแนวชายแดน พวกเราต้องมีมาตรการในการจัดการ
“หัวใจสำคัญอยู่ที่เมืองชเวโก๊กโก่ เมืองเคเคพาร์ก จังหวัดเมียวดี เป็นเรื่องที่เราต้องคุยกัน และต้องพูดคุยกับจีนด้วย เพราะหลายเรื่องไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างเดียว เช่น การเป็นทางผ่าน ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ยังมีเส้นทางอื่นอีก ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มีแอฟริกา อีกทั้งผมจะใช้โอกาสนี้จัดการ ส่วยบริเวณตามแนวชายแดนทั้งหมด” นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อถามว่า นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าเป็นอำนาจของนายภูมิธรรมในการสั่ง ตัดไฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอยู่ แต่เมื่อมีปัญหา ก็ต้องรีบสรุปข้อมูลและส่งมาที่ตนเอง ซึ่งยอมรับว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง จะว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของรองนายกฯอีกก็ใช่ แต่ไม่ใช่ว่าจะโยนกันไปมา ก็ต้องดูกันทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องมาโยนกันไปมา พร้อมทั้งยืนยันว่าเรื่องการตัดไฟเมียนมา ไม่ต้องเข้าสู่ ครม. ว่า สมช. สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว หากทำผิดกฎหมาย และกระทบความมั่นคง
“เรื่องแบบนี้เมื่อหน่วยงานเฉพาะหน้าเจอ ไม่จำเป็นต้องมารอคำสั่งการ สามารถดำเนินการได้ทันที หรือทำเรื่องมาขอ ว่าเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ โดยไม่ต้องรอให้ไปสั่ง เพราะเป็นหน่วยงานปฏิบัติอยู่แล้ว เราไม่มีหน้าที่ตัดไฟตามกระแสในโซเชียล ที่กดดันว่าจะตัดไฟกี่โมง ส่วนที่มีการย้ายตำรวจในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก นั้น จะเกี่ยวกันหรือไม่ผมยังไม่รู้” นายภูมิธรรมกล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,หยุดจ่ายไฟเมียนมา ,เตรียมตัดไฟ