สังคม
“เจ๊หนิง” โผล่ สน.พระโขนง ให้ปากคำ ถูกภรรยา “บิ๊กโจ๊ก” ดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ
โดย chutikan_o
3 ก.พ. 2568
186 views
“เจ๊หนิง” โผล่ สน.พระโขนง เข้าให้ปากคำ ถูกภรรยา “บิ๊กโจ๊ก” ดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ ลั่นอยากมาเจอคู่กรณีเพื่อทวงทรัพย์สินคืน ยันไม่ได้กุเรื่อง สุดท้ายไม่ได้พบคู่กรณี
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ดร.ศิรินัดดา หักพาล ภรรยาของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายัง สน.พระโขนง เพื่อมาติดตามความคืบหน้าคดีที่แจ้งความร้องทุกข์เอาผิด น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ๊หนิง คู่กรณีในข้อหาแจ้งความเท็จ
ในเวลา 13.25 น. เจ๊หนิงเดินทางมาที่ สน.พระโขนง ท่ามกลางความไม่คาดคิดของสื่อมวลชน โดยเจ๊หนิงเปิดเผยว่า ในวันนี้ที่เดินทางมาเป็นเพราะความบังเอิญ เนื่องจากเมื่อคืนนัดหมายกับพนักงานสอบสวนร้อยเวรเจ้าของคดีที่เธอถูกแจ้งความเรื่องแจ้งความเท็จว่าให้มาสอบปากคำและส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม
แต่เธอทราบว่าภรรยาของบิ๊กโจ๊กได้เดินทางมาในวันเดียวกันพอดี จึงอยากจะพบเจอกับภรรยาของบิ๊กโจ๊ก เพราะอยากจะพูดคุยและทวงคืนคีย์การ์ด รวมทั้งทรัพย์สินของตัวเองคืน เช่น ทองคำ 120 บาท และเงินสด 600,000 บาท อีกทั้งอยากจะถามภรรยาของบิ๊กโจ๊กต่อหน้าสื่อมวลชนว่า การที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง เป็นเรื่องที่ภรรยาบิ๊กโจ๊กต้องภูมิใจขนาดนั้นหรือ ยืนยันว่าไม่ได้เดินทางมาเพราะจงใจจะสร้างความวุ่นวาย หรือตั้งใจจะมาพบภรรยาของบิ๊กโจ๊กโดยตรงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ในส่วนคดีที่เธอแจ้งข้อหาลักทรัพย์กับภรรยาบิ๊กโจ๊กนั้น สาเหตุที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องต่อพนักงานอัยการ เนื่องจากอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ โดยเฉพาะ GPS ที่ตัวภรรยาบิ๊กโจ๊กที่ไม่ปรากฏ ณ ที่เกิดเหตุ ตนเองจึงสงสัยการทำงานของพนักงานสอบสวนว่า ภรรยาของบิ๊กโจ๊กติด GPS ที่ตัวหรือ ถึงทราบได้ว่าไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ อีกทั้งฝั่งเธอมีพยานบุคคลจำนวน 3 ปาก เพียงแต่ว่ามีการสอบปากคำไปเพียงแค่พยานปากเดียวคือหลานชายของตนเอง แล้วสรุปสำนวนคดีทันที ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ได้แจ้งความตามมาตรา 157 เพื่อเอาผิดกับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ไปแล้ว
เจ๊หนิงเปิดเผยอีกว่า ยังมีกรณีที่หลานชายของตนเองถูกคุกคามหลังจากเปิดหน้ากับสื่อ โดยถูกแจ้งความข้อหามีประมาทด้วยการโฆษณาที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งตอนแรกได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนไว้แล้วว่าจะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่ขอเลื่อนวันเวลาเนื่องจากหลานชายป่วย ปรากฏว่า หลานชายถูกออกหมายจับและถูกตำรวจส่วนกลางมาจับกุมไปดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้ก็เตรียมที่จะดำเนินคดีกลับไปยังพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เช่นเดียวกัน โดยยืนยันว่า หลานชายไม่เคยให้สัมภาษณ์พูดชื่อของนายตำรวจที่เป็นสามีของคู่กรณีแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่เธอถูกโทรศัพท์มาข่มขู่คุกคามวันละ 2-3 สาย โดยมีการคุกคามตั้งแต่ขู่ฆ่า รับรองความไม่ปลอดภัย และใช้คำพูดอนาจารขอมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเบอร์ที่โทรมานั้น ล้วนแต่ไม่ซ้ำเบอร์กันและปลายสายเป็นเสียงผู้ชายที่ไม่ซ้ำคนด้วย รวมทั้งตนเองยังโดนร้องเรียนเรื่องรถยนต์ส่วนตัวที่ไม่ให้เข้าพื้นที่โรงเรียนต้นสังกัดของสามี แต่เลือกที่จะยังไม่แจ้งความร้องทุกข์ในเรื่องการคุกคาม เพราะมีสามีเป็นตำรวจ จึงเข้าใจว่าตำรวจทำงานหนักและงานเยอะอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำไปว่า เป็นเพราะความกังวลว่าจะไม่รับความเป็นธรรมจึงไม่เข้าแจ้งความหรือไม่ เจ๊หนิงบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกัน
อีกทั้งสามียังถูกนายตำรวจมางัดแงะห้องพักในที่ทำงานของสามี ซึ่งเธอได้ฝากบอกไปยังนายตำรวจที่งัดแงะห้องว่า คุณจะกลัวนายหรือไม่กลัวนาย แต่พอมาวันหนึ่งเรื่องถึงตัวคุณ นายก็จะช่วยคุณไม่ได้ ก็จะตัวใครตัวมัน ซึ่งตอนนี้สามีของตนยังให้โอกาสนายตำรวจคนนี้มารับสารภาพและยังไม่แจ้งความ แต่ถ้ายังไม่ยอมมารับสารภาพ ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน
เจ๊หนิงยังเปิดใจอีกว่า ตอนนี้สังคมตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองกุเรื่องขึ้นมาเพื่ออยากได้เงิน ยืนยันว่าไม่ได้อยากได้เงิน แม้ว่าเธอไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่ก็มีเงินของตนเองและไม่ได้มีนิสัยขี้โกง เชื่อได้ว่าคนทั้งประเทศจะพิสูจน์ได้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อไปว่า เนื่องจากสังคมยังตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องการซื้อทองนั้นมีใบรับรองหรือใบเซอร์จริงหรือไม่ จึงอยากให้ทางเจ๊หนิงแสดงใบรับรองเพื่อยืนยัน แต่เจ๊หนิงกับปฏิเสธ โดยย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ซื้อทองจริง แต่ไม่สามารถนำใบรับรองมาแสดงได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ขนาดยังไม่ได้นำใบมาแสดงยืนยัน ตนเองก็ยังถูกข่มขู่ ดังนั้น จึงจะเก็บพยานหลักฐานชิ้นนี้เอาไว้แสดงในชั้นศาล แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ภรรยาของบิ๊กโจ๊กแสดงหลักฐานว่าได้เช่าคอนโดจริงตามที่มีการกล่าวอ้างเอาไว้ต่อหน้าสื่อมวลชน อยากให้ภรรยาของพี่โจ๊กเปิดหน้าสู้กับตนเอง
สำหรับคดีความที่แจ้งความเอาผิดกับภรรยาของบิ๊กโจ๊กมีจำนวนทั้งสิ้น 7 คดี ซึ่งเป็นข้อหาหมิ่นประมาท 6 คดีและคดีลักทรัพย์ 1 คดี ส่วนฝั่งภรรยาบิ๊กโจ๊กได้แจ้งความเธอในข้อหาแจ้งความเท็จและฟ้องตรงต่อศาลอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งจะมีการนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 17 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ หลังจากที่เจ๊หนิงได้ขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังภรรยาของบิ๊กโจ๊ก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่จากการสอบถามตำรวจ สน.พระโขนง ก็ระบุว่า ยังไม่รับรายงานว่าภรรยาของบิ๊กโจ๊กจะเดินทางเข้ามาเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนคดีที่มีการแจ้งความเจ๊หนิงเรื่องแจ้งความเท็จนั้น อยู่ในระหว่างการรวบรวมเอกสาร ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการต่อไป
ต่อมาเวลา 14.30 น. เจ๊หนิงเดินทางกลับออกจาก สน.พระโขนง หลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วเสร็จ โดยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเพียงแค่ว่า จากการพูดคุยกับทางตำรวจ ไม่พบว่ามีการนัดหมายให้ภรรยาของบิ๊กโจ๊กมาพบตำรวจแต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง เจ๊หนิง ,บิ๊กโจ๊ก ,ภรรยาบิ๊กโจ๊ก ,แจ้งความเท็จ ,ให้ปากคำ